ทางออกนอกตำรา
โดย : บากบั่น บุญเลิศ
เส้นทางดีดีการบินไทย
อยู่ในมือ 2 ปลัดกับ "คุณสมชาย"
พนักงานการบินไทยกว่า 2 หมื่นคน กำลังเกาะติดการสรรหา กรรมการผู้อำนวยการ (ดีดี) คนใหม่กันอย่างใกล้ชิดแถมป้องปากซุบซิบกันลั่นทั้งวิภาวดีรังสิตยันสุวรรณภูมิว่า “งานนี้มีล้มแน่นอน”
เพราะเมื่อคณะกรรมการสรรหาที่มี" สมชัย สัจจพงษ์" ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน สรุปผลการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครจาก 8 คน เหลือผู้ผ่านคุณสมบัติจริงแค่ 4 คน
"ดนุช บุนนาค "ที่ปรึกษากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
"วิสิฐ ตันติสุนทร" อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะไม่ผ่านคุณสมบัติเพราะอดีตคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเคยมีมติให้เลิกจ้างเนื่องจากตรวจพบปัญหาความผิดปกติในการบริหารงาน แต่วิสิฐได้ลาออกไป คณะกรรมการสรรหาฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีดังกล่าวยังอยู่ในชั้นศาลและยังไม่ถึงที่สิ้นสุด จึงอนุมัติให้ผ่านคุณสมบัติไปก่อน
"ธีรวิทย์ จารุวัฒน์ "อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
"ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล" อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้ามวลชนแห่งประเทศไทย
ส่วน 4 คนที่เหลือไม่ผ่านคุณสมบัติ ประกอบด้วย "ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์" รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี (ซีเอฟโอ) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และอดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์และการเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ตกคุณสมบัติ เนื่องจากเคยเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์และการเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่เคยเป็นคู่ค้าทางธุรกิจและมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทการบินไทยมาก่อน และณรงค์ชัยยังลาออกจากธนาคารซีไอเอ็มบีมายังไม่ครบ 3 ปีตามประกาศกำหนดคุณสมบัติ
"วิเชฐ ตันติวานิช" หรือ"เสี่ยเว้" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตัวเต็งเก็ง 1 ที่ลือกันท้องทุ่งดอนเมือง ตกคุณสมบัติ เนื่องจากเคยเป็นอดีตผู้บริหารในนิติบุคคลที่เคยเป็นคู่ค้าทางธุรกิจและมีส่วนได้ ส่วนเสียกับบริษัทการบินไทยมาก่อน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนได้ในอนาคต
"พฤทธิ์ บุปผาคำ "ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (มหาชน) หรืออีลิท การ์ด และอดีตเคยเป็นอดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ (ดีเอ็น) ของการบินไทย ตกคุณสมบัติ เพราะอดีตเคยมีคดีฟ้องร้องกับการบินไทยและถูกให้ออกในยุค "ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์" เป็นดีดี
"ศรีล สุขุม" ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตกคุณสมบัติ เนื่องจากเคยเป็นอดีตผู้บริหารในนิติบุคคลที่เคยเป็นคู่ค้าทางธุรกิจและมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทการบินไทยมาก่อน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนในอนาคต
เทียบดูหั่งเช้งยันโหงวเฮ้งแล้ว จะทำให้ตัวเก็งในการแข่งกันจริงเหลือ 2 คน คือ “ไข่ไก่-ดนุช กับ ธีรวิทย์” เท่านั้น ส่วน อีก 2 ส.“วิสิฐ-ยงสิทธิ์” แทบจะตัดทิ้งไปได้เลย สาเหตุเพราะ….
วิสิฐ ในฐานะอดีตเลขาธิการ กบข. นั้น แม้จะเป็นคนเก่งในการบริหารเงิน บริหารงาน บริหารคน เขาทำงานแค่ 3 ปี สามารถพลิกกองทุนเอไอจีสร้างกำไรในไทยบานเบอร์ปีละ 30% ทำงานแค่ 12 ปี ก้าวขึ้นเป็นรองประธานภูมิภาคฝ่ายการลงทุนของเอไอเอ ก่อนมาเป็นเลขาธิการ กบข.ที่สร้างความมั่งคั่งก่อนจะอับแสง
วิสิฐจึง“เป็นสินค้าที่มัวหมอง” เพราะเคยถูก กบข.ให้ออก คณะกรรมการเฉพาะกิจที่มี "สมพล เกียรติไพบูลย์ "อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษา “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯเป็นประธาน ไปตรวจสอบการลงทุนในห้วงที่วิสิฐบริหารอยู่พบว่า มีความผิดที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของ กบข. จากการซื้อขายหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการ กบข.จึงมีมติเลิกจ้าง
ลองถ้า “ปลัดสะมะพล” เป็นผู้ตรวจสอบแล้วมีมติเช่นดั่งว่า อนาคตวิสิฐดับ..ตั้งแต่ต้นแล้ว
ส่วน “ยงสิทธิ์”นั้นก็ไม่ต่าง เพราะอดีตผู้ว่าการ รฟม. ผู้นี้แม้ผ่านคุณสมบับัติ แต่ประวัตินั้นยงสิทธิ์เป็นอดีตผู้บริหาร บริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน คือ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ธุรกิจของตระกูลชินวัตร เเต่ถูกฝ่ายการเมืองในห้วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดันเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2555 แต่อยู่ในตำแหน่งประมาณ 2 ปี 2 เดือน ก่อนจะลาออกไปในวันที่ 22 ก.ย.2557 ในยุคที่ พล.อ.ยอดยุทธ์ บุญญาธิการ เพื่อนเลิฟนายกฯลุงตู่ เป็นประธานกรรมการ รฟม. ดังนั้นจึงกากบาทตัดออกไปได้เลย
ตอนเข้ามารับตำแหน่ง ผมเคยมีโอกาสสัมภาษณ์ "ยงสิทธิ์"ว่าใครชักชวนให้สมัครผู้ว่าการ รฟม. ยงสิทธิ์บอกว่า มีคนรู้จักบอกมา เพราะเห็นว่าจะช่วย รฟม.ได้อีกมาก ผู้ที่แนะนำมีทั้งคนแวดวงการเมือง นักธุรกิจ และคนที่รู้จักกันในพรรคการเมือง
คู่ชิงชัยจึงเหลือแค่ “ไข่ไก่-ดนุช” กับ “ธีรวิทย์”…
"ดนุช"นั้นเป็นลูกหม้อการบินไทยแท้ๆ และเส้นทางการทำงานประสบการณ์ก็ไม่ธรรมดา ปี 2556 เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ 2555 เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ ปี 2554 เป็นกรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจการบริการภาคพื้น ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปี 2531 เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถูกดองมานานร่วม 3 ปี ในยุค “พล.อ.อ.ศิวะเกียรติ์ ชะเยมะ และ จรัมพร โชติกเสถียร” เป็นดีดี ดูเผินๆอนาคตสดใสกาววาว
เพราะเผอิญเหลือเกินว่า “ธีรวิทย์” นั้น ก็มีแผลติดตัว แม้เก่งด้านวิศวกรรมและด้านการเงินจากรั้วเอกธนกิจ แต่ตอนดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ทีโอที คณะกรรมการ ทีโอที ที่มี สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ มีมติปลด “ธีรวิทย์” พ้นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เมื่อ 12 พ.ค.2549 เพราะไม่ผ่านการประเมินผลงาน ทำให้รายได้ของทีโอทีตกต่ำ ตัวชี้วัด 31 ตัว ธีรวิทย์ไม่ผ่าน 15 ตัว ทีโอทียอมบอกเลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชย 8 เดือน รวม 3.6 ล้านบาท
แต่เส้นทางของ”ดนุช”ในการก้าวขึ้นสู่บันไดสูงสุดในองค์กรไม่ง่าย เพราะบอร์ดการบินไทยที่มีอยู่ ล้วนแล้วแต่เคยเห็นฝีมือไข่ไก่มาทั้งหมด หลายคนมีวิวาทะและขัดแย้งกับวิธีการทำงานการตลาดแบบรุกรับเร็วของ ดนุชมาแล้วทั้งสิ้น หลายคนจึงไม่ขอแสดงความคิดเห็น บางคนอาจออกเสียงคัดค้านตามนโยบายได้ทันที หากมีสัญญาณ…ให้รักษาการดีดีคนปัจจุบันลากยาวต่อไป
อนาคตของการบินไทยที่กำลังเทิร์นอะราวด์ พลิกฟื้นจากขาดทุนปีละ 1.1 หมื่นล้านบาท รายได้ปีละ 1.8 แสนล้านบาท จากผู้โดยสารปีละร่วม 2 ล้านคนที่ใช้บริการ มายืนอยู่แดนบวกได้ จึงอยู่ในมือของคณะกรรมการ ที่มี 2 ปลัดกระทรวงจะขับเคลื่อน
สายการบินแห่งชาติของไทยจะฝ่ามรสุมในธุรกิจการบินที่เลือดเดือด แต่มีอัตราการเติบโตปีละ 10% ไปได้หรือไม่ อยู่ในมือกรรมการ และ “คุณสมชาย”…ผู้บริหารบ้านเมือง
คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/หน้า6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3247 ระหว่างวันที่ 26-29 มี.ค.2560