กรุงศรีออโต้กดหนี้เสีย2%

22 มี.ค. 2560 | 10:00 น.
กรุงศรีออโต้ ยันไม่ตัดเอ็นพีแอลขาย เน้นใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยง-เลือกเซ็กเมนต์ปล่อยสินเชื่อใหม่ เชื่อทั้งปีกดหนี้เสียไม่เกิน 2%ประเมินตลาดรถยนต์เริ่มผงกหัว-ดีมานด์จริงขยับทั้งปีคาดยอดขาย 8 แสนคัน

หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ ยังไม่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงประมาณ 80% ของจีดีพี แต่เอ็นพีแอลถือว่าดีขึ้นจากยอดปีก่อน2.83% มาที่2.8% และหากพิจารณาเอ็นพีแอลสินเชื่อยานยนต์จะพบว่ามีแนวโน้มลดลงในช่วง 2-3 ปีจากปี 2557 ทั้งระบบอยู่ที่ 2.54% ส่วนปี2558 และปี2559 อยู่ที่ 2.32% และ 1.80% ตามลำดับ

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรุงศรี ออโต้พยายามรักษาเอ็นพีแอลให้ไม่เกินที่ระดับ 2% ซึ่งจะเห็นว่าเอ็นพีแอลในปี 2557-2558 อยู่ที่ 1.7% และในปี 2559 ลดลงเหลือ 1.63% ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเน้นการบริหารหนี้ โดยการนำเครื่องมือมาช่วยในการบริหารความเสี่ยงทำให้คุณภาพสินเชื่อค่อนข้างดี เนื่องจากมีการดูเซ็กเมนท์ลูกค้าที่มีความสามารถในการชำระหนี้ ประกอบกับมีทีมงานติดตามหนี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยให้หนี้ตกชั้น หรือหนี้จับตาเป็นพิเศษ (SM) มีสัดส่วนไม่มากนัก

ขณะเดียวกันแม้ว่าหนี้เอ็นพีแอลเช่าซื้อในระบบจะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเห็นทิศทางการตัดขายหนี้บ้าง แต่ในส่วนของกรุงศรี ออโต้ ไม่ได้มีการตัดขายพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ออกให้กับบริษัท บริหารสินทรัพย์ (AMC) แต่อย่างใด แต่เน้นบริหารและคุมความเสี่ยงกันเอง และจะเห็นว่าการบริหารที่ดีทำให้ยอดการอนุมัติสินเชื่อค่อนข้างสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 80% เป็นผลมาจากการควบคุมหนี้ที่ดี ทำให้การปล่อยสินเชื่อใหม่จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายได้

สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2560 กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้าเติบสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 4% โดยปีก่อนปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 1.34 แสนล้านบาท เติบโต 7% สูงกว่าระบบที่ขยายตัวเพียง 0.4% หรือยอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 5.11 แสนล้านบาท คาดว่าปีนี้ระบบจะขยายตัว 3% หรือ 5.28 แสนล้านบาท

ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างตั้งเป้าเติบโต 10% หรืออยู่ที่ 3.07 แสนล้านบาท เท่ากับปีก่อนที่ขยายตัวได้ 10% มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2.79 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ที่ 25% หรือ 1 ใน 4 ของระบบ จากปีก่อนมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 24% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 อยู่ที่ 22%

ขณะที่ภาพรวมยอดขายตลาดรถยนต์เติบโตอยู่ที่ 4% หรือประมาณ 8 แสนคัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตราการเติบโตลิดลบอยู่ที่ 4% ยอดขายอยู่ที่ 7.7 แสนคัน ลดลงจากปี 2558 ที่ยอดขายอยู่ที่ 8 แสนคัน ส่วนรถยนต์ใช้แล้วปีนี้คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน เติบโต 5% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.34 ล้านคัน และตลาดรถจักยานยนต์และบิ๊กไบค์ขยายตัว 1% ยอดขายอยู่ที่ 1.75 ล้านคัน จากปีก่อนอยู่ที่ 1.74 ล้านคัน

“ภาพตลาดรถยนต์ในปีก่อน เรามองว่าเป็นปีที่ต่ำสุดของรถยนต์ใหม่ ทำให้ปีนี้น่าจะดีขึ้นหากดูจีดีพีที่ดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรทยอยปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีดีมานด์ของจริงกลับเข้ามาแทนที ส่วนการแข่งขันเชื่อว่ายังคงรุนแรงเหมือนเดิม แม้ว่าตลาดจะดร็อปแต่ทุกคนก็แข่งขันเพื่อรักษาตลาดตัวเองไว้ ส่วนราคาไม่ได้เป็นปัจจัยหลัก แต่เป็นเรื่องของเซอร์วิสการบริการมากกว่า”

ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในสปป.ลาว ในนามของ บริษัท กรุงศรี บริการเช่าสินเชื่อ จำกัด (KLS) ปัจจุบันนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผ่อนชำระค่าสินค้า ภายใต้แบรนด์กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ภายใต้แบรนด์กรุงศรี ออโต้ โดยในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปี 2559 ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก ซึ่งในปีนี้ยังคงมีแผนขยายตัวต่อเนื่อง โดยจะมีการศึกษาและนำผลิตภัณฑ์ในไทยไปปรับใช้ในสปป.ลาวเพิ่มขึ้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนพนักงานของไทยและสปป.ลาว เพื่อเรียนรู้ตลาดระหว่างกัน

ขณะที่แผนการขยายธุรกิจไปในกลุ่มม CLMV ยังคงมองอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งอยู่กับโอกาสและจังหวะ หากมีโอกาสพร้อมที่จะเข้าไป ส่วนกัมพูชาอาจจะต้องรอให้ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์เป้นจุดเริ่มต้นก่อน และให้ธุรกิจเดินไปสักพัก และค่อยขยายไปสู่ตลาดเช่าซื้อ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560