ทางออกนอกตำรา : จับมุสาพระธรรมกาย ขนเงินวัดไล่ซื้อหุ้น “ส.2-ส.สัน” พัน "ทัตตชีโว"

17 มี.ค. 2560 | 13:12 น.
ทางออกนอกตำรา

โดย : บากบั่น บุญเลิศ

 จับมุสาพระธรรมกาย ขนเงินวัดไล่ซื้อหุ้น “ส.2-ส.สัน” พัน "ทัตตชีโว"

กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ช่อง 19 นำเสนอข่าวเรื่อง “วัดธรรมกายโยกเงินบริจาคไปซื้อขายหุ้นในกลุ่มของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยกเครือ-เสี่ยสองร่วมก๊วน” ปรากฎว่า มีคนอ่านผ่านเว็ปไซต์และเฟซบุ๊กกว่า 3 แสนคน และมีการแชร์ข่าวจำนวนมาก

และในช่วงเที่ยงของวันที่ 15 มีนาคม 2560 สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไม่มีการนำเงินบริจาควัดพระธรรมกาย ไปซื้อขายหุ้นในบริษัท หรือให้บุคคลต่างๆ เล่นหุ้นตามที่มีข่าวแต่อย่างใด และมีการนำข่าวในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจเรื่อง “หุ้นLHพันธรรมกาย” ไปประกบและขึ้นข้อความว่า “ข้อมูลเป็นเท็จ”

ในฐานะที่ผมเป็นบรรณาธิการอำนวยการ นสพ.ฐานเศรษฐกิจและสถานีข่าวสปริงนิวส์ ช่อง 19 ผมอยากชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เรื่องนี้กองบรรณาธิการมิได้มุ่งร้ายทำลายวัด หากแต่เป็นการสืบค้นความจริงตามราชกิจจานุเบกษาที่เผยแพร่ประกาศคำสั่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 เรื่องการถอดถอนสมณศักดิ์พระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว) เพราะเข้าข่ายเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา และมีการนำเงินของวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้น จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157  จึงได้มีการหาข่าวและมีการสืบค้นข้อมูลเพื่อทำความจริงให้ปรากฎตามหน้าที่สื่อมวลชน

ปรากฎว่า ข้อมูลที่ได้รับจากสายข่าวในกระทรวงยุติธรรมนั้นระบุชัดว่า มีการนำเงินวัดธรรมกายไปเล่นหุ้นจริง   มีการโยกเงินก้อนหนึ่งร่วมพันล้านบาทไปซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวพันกับกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ เสี่ยสองกับพวกจริง และมีความเสียหายจากการขึ้นลงของราคาหุ้นที่บางตัวยังร่วงติดฟลอร์ไปร่วมพันล้านบาท

ล่าสุด เมื่อค่ำวันที่ 15 มีนาคม 2560 ขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ สำนักการสอบสวน 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานร่วมสอบคดีพระธัมมชโยรับของโจรฟอกเงินกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ชี้แจงว่าในการสอบสวนคดีฟอกเงินพบว่า มีการนำเงินวัดไปซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง และมีคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์มูลนิธิวัดพระธรรมกายที่มีการนำไปซื้อที่ดินในนามส่วนตัวอีกจำนวนมาก จึงแตกการสอบสวนออกเป็นคดีใหม่

จากก่อนหน้านี้ที่พบหลักฐานจากการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของวัดพระธรรมกายแล้วพบข้อมูลที่ชัดเจนชัดเจนว่า พระทัตตชีโวนำเงินออกจากบัญชีของวัดไปซื้อหุ้น

พระทัตตชีโวมีตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสและรักษาการเจ้าอาวาส จึงถือเป็นเจ้าพนักงาน เข้าข่ายมีความผิดมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ขณะนี้ได้จัดกลุ่มคดีไว้ 15 สำนวน ให้ชุดสอบสวนไปสอบมูลนิธิ กลุ่มบุคคล บุคคล ที่นำเงินไปซื้อหุ้น ที่ดินแล้วไม่ได้ยกให้เป็นที่ดินของวัดหรือธรณีสงฆ์ ส่วนที่มีชื่อ ส.2, ส.สัน, ม.มโน รวมอยู่อยู่ในข่ายด้วยนั้นก็ต้องเรียกมาสอบทั้งหมด ซึ่งถ้าบริสุทธิ์ใจก็ต้องมาชี้แจง

สำหรับบุคคลที่ชื่อ ส.2 ที่อยู่สหรัฐอเมริกา ขจรศักดิ์ กล่าวว่า "เราสอบเอาหลักฐานกันก่อน ถ้าไม่มา ถ้าเขาบริสุทธิ์ก็ต้องมาชี้แจง ถ้าไม่มาชี้แจงก็เป็นพิรุธ "

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของชื่อบริษัทที่เป็นตัวผ่านในการเล่นหุ้นนั้น ขจรศักดิ์ระบุว่า มีชื่อในมือแล้ว แต่ไม่ขอพูด เมื่อถามว่าการเล่นหุ้นของ วัดพระธรรมกายมีเครือข่ายผ่านโบรกเกอร์ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยตัว M หรือไม่ นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้ขอสอบก่อน เพราะว่าอาจจะมีหลายโบรกเกอร์ก็ได้ ที่เราพบอาจจะเป็นแค่บางจุดเท่านั้น จึงไม่สามารถพูดได้ ต้องรอหลักฐานประกอบด้วย

ทั้งนี้ ขจรศักดิ์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในการสอบสวนการฟอกเงินของ อลิสา อัศวโภคิน และ  อนันต์ อัศวโภคิน ที่ซื้อต่อที่ดินมาจาก ศุภชัย ศรีศุภอักษร  แต่บอกว่า ส่วนสืบสวน สำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ 2 กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน เมื่อนักข่าวถามว่า วรรณา จิรกิตติ อยู่ในข่ายถูกเรียกมาสอบด้วยหรือไม่ นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ในข่ายเช่นกัน เพราะเป็นประธานมูลนิธิ

จากข้อมูลทั้งหมดที่ผมไล่เรียงมาจะพบว่า ข่าวที่ได้นำเสนอนั้นเป็นความจริง มิใช่ความเท็จแต่ประการใด และการนำเงินบาปและเงินจากการบริจาคด้วยศรัทธาของพุทธสานิกชนไปซื้อขายหุ้นนั้นถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ เงินส่วนนี้มิใช่เป็นเงินส่วนตัวพระทัตตชีโวจะยกให้สาวกหญิงไปเปิดพอร์ตหุ้น  ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน ก็ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ ตามความในมาตรา 37 (1) ที่กำหนดให้เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี (2) ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีอยู่หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้น ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม

พระสงฆ์ที่ก้าวเข้าสู่ทางธรรม ต้องสลัดจิต ตั้งมั่นที่จะหลุดพ้นจากทางโลก ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เน้นเรื่อง โลกุตตระธรรม

โลกุตตระ มาจากคำว่า โลก ที่หมายถึง สภาพหรือสภาวะ แห่งความนึก ความคิด ความปรุงแต่ง อารมณ์ ความรู้สึก สภาพหรือสภาวะ แห่งความมีความเป็น การเห็น การอยู่ การรู้ การทำ สภาพหรือสภาวะแห่งการยึดการเกิด การหลอกล่อ มายาลักษณะ เรีกกันรวมๆว่า “สรรพสิ่ง ”

อุตตระ หมายถึง นอกเหนือ ยิ่งกว่า เหนือกว่า ไม่เนื่องด้วย

เพราะฉะนั้น โลกุตตระ หมายถึง นอกเหนือ เหนือกว่า ยิ่งกว่า ไม่เนื่องด้วย สภาพ หรือ สภาวะที่เป็นไปในโลกนั่นเอง

ถ้าเราต้องการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา บูชาสงฆ์ เราต้องร่วมกันขจัดสงฆ์ที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์จากผ้าเหลือง

คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา /หน้า6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/  ฉบับ 3245 ระหว่างวันที่ 19-22  มี.ค.2560