‘ยูยู’เด้งรับพื้นที่‘บ่อวิน’ ศูนย์กลางที่อยู่อาศัยจังหวัดอีอีซี

17 มี.ค. 2560 | 03:00 น.
บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด (มหาชน)หรือยูยู ก่อตั้งโดยบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ดำเนินกิจการผลิตน้ำประปาแบบครบวงจร เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามอง หลังปักฐานธุรกิจอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกตามรอยบริษัทแม่(อีสท์ วอเตอร์) ผู้ให้บริการน้ำดิบรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก
เชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูยู ให้สัมภาษณ์พิเศษ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแผนรองรับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำประปาในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ(อีอีซี) โดยเฉพาะที่บ่อวิน ที่เขามองว่าเป็นจุดศูนย์กลางที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง ยูยูเตรียมความพร้อมอย่างไรกับการขยายตัวในพื้นที่ดังกล่าวน่าติดตาม

 ได้ฐานลูกค้าเพิ่มที่บ่อวิน

กรรมการผู้จัดการบริษัทยูยู เปิดประเด็นถึงแผนธุรกิจปี2560 ว่า จะโฟกัสไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดนำร่องในอีอีซี โดยเฉพาะที่บ่อวิน จังหวัดชลบุรี ที่ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่จำนวน 16,700 ราย จากที่ปี 2549 เริ่มต้นที่ 500 ราย 10 ปีโตขึ้น 33 เท่า เพราะพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นศูนย์รวมของที่อยู่อาศัย โตตามชุมชน และ นิคมอุตสาหกรรม ที่น่าจับตาตรงพื้นที่บ่อวินจะกลายเป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยของคนที่อาศัยและทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง

ฉะเชิงเทรา(พื้นที่นำร่องอีอีซี) ที่ตรงนี้จะกลายเป็นเมืองที่อยู่อาศัยที่ยูยูจะได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป เนื่องจากจะเกิดนิคมอุตสาหกรรมใหม่ๆขึ้นมา จากกลุ่มทุนWHA (เหมราชเดิม)โรจนะ นิคมของกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี แถวบ้านบึง และเกิดนิคมของกลุ่มซีพี แลนด์ ซึ่งทุนกลุ่มนี้มีที่ดินอยู่แล้วที่เตรียมสำหรับการพัฒนาพื้นที่ให้สอดรับกับอีอีซี จะเห็นได้ชัดว่าเฉพาะตรงพื้นที่บ่อวินจะเติบโตสูงมากในอนาคต

นอกจากนี้ยูยูจะได้อานิสงค์จากเมืองใหม่ มี4พื้นที่ ไล่ตั้งแต่ระยอง ตรงทิศเหนือ อำเภอเมือง หรือตรงอำเภอบ้านค่าย ฉะเชิงเทรา ตรงรอยต่อระหว่างบ้านบึง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยา เป็นพื้นที่เดิม เป็นพื้นที่เดียวกันกับที่การท่องเที่ยวพัทยากำหนดไว้แล้ว พอตรงนี้บูม ยูยูก็ได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะเรามีธุรกิจเดิมอยู่แล้วใน3 พื้นที่ดังกล่าว 3 จุดนี้ ใน10 ปี นับจากปี2559 เป็นต้นไป ประชากรจะเพิ่มขึ้นจาก2.4 ล้านคนเพิ่มเป็น13.5 ล้านคนหรือโตขึ้นมา 5 เท่า จากที่ภาครัฐคาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้ธุรกิจเราโตไปพร้อมกับผู้ใช้น้ำในพื้นที่

 โปะทุนใหม่200ล้าน

สำหรับปี2560 ยูยูเตรียมแผนลงทุนใหม่ 200 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงท่อน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดระยอง บางปะกง ฉะเชิงเทรา และปรับปรุงระบบผลิตที่บางปะกงและที่ฉะเชิงเทรา รวมถึงปรับปรุงคุณภาพน้ำและลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมหลักชัย จังหวัดระยอง โดยจะไปก่อสร้างระบบน้ำประปาและระบบบำบัดน้ำเสีย และเพิ่มกำลังผลิตประปาที่ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น

 ปี60ตั้งเป้าโต5-6%

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูยู ตั้งเป้าว่ายอดขายปี2560 จะโตราว 5-6% ขึ้นอยู่ที่ระบบสาธารณูปโภคและการขยายตัวของบุคลากรในพื้นที่ โดยมาจากฐานผู้ใช้น้ำเดิม และมาจากผู้ใช้น้ำรายใหม่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันยูยูมีผู้ใช้น้ำโดยผ่านการบริหารจัดการทางท่อประมาณ 1.97 หมื่นราย ที่มาจากภาคครัวเรือน ยอดขายอยู่ที่ 255 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากที่มีกำลังผลิตน้ำอยู่ที่ 375 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน เปรียบเทียบกับผลดำเนินงานเมื่อ ปีที่ผ่านมา ยูยูมีรายได้ 1,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% โดยมีกำไรเพิ่มขึ้น 22% หรือ248 ล้านบาท เมื่อเทียบจากรายได้ปี 2558 ที่มี 1,176 ล้านบาท มีกำไร 202 ล้านบาท

ทั้งนี้การเติบโตของรายได้เกิดจาก ประการแรก ผลจากที่ไปซื้อกิจการบริษัทประปาราชบุรี ในนาม บริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทเอ็กโก กรุ๊ปส์ฯ ผลิตไฟฟ้าที่ราชบุรี โดยผลิตและจำหน่ายน้ำให้กับการประปาส่วนภูมิภาคที่ราชบุรีและสมุทรสงครามเข้ามาเมื่อปลายปี2558 ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปี2558 ประการที่สอง จากผลของการบริหารลดต้นทุนของบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัดและบริษัทย่อย

"เมื่อปี2559 เรามีกำลังผลิตน้ำ 3.75แสน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปี2560 คาดว่าจะโต 5-6% ทั้งในแง่ผู้ใช้น้ำและปริมาณน้ำ โดยมียอดขาย 2.55 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีผู้ใช้น้ำจำนวน 1.9 8แสนราย"

อย่างไรก็ตามล่าสุดยูยู กำลังศึกษาการลงทุนนอกพื้นที่ภาคตะวันออก ให้บริการผลิตน้ำประปาที่จังหวัดชุมพร ตรังและสงขลา และศึกษาความเป็นไปได้ถึงแผนร่วมทุนหรือเข้าซื้อกิจการในธุรกิจน้ำและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะคืบหน้าในไตรมาสสามปีนี้ หากสำเร็จ ยูยูจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ราว 200 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,244 วันที่ 16 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2560