เปิดศึกเอสยูวีไฮเอนด์ เศรษฐีไทยยอมควัก 8-26 ล้านจับตา‘โรลส์-รอยซ์ร่วมวง’

08 มี.ค. 2560 | 13:00 น.
ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรูในเมืองไทยคึกคัก เมื่อบริษัทแม่เสริมทัพเอสยูวีรุ่นใหม่ “นิชคาร์” เล็งเปิดตัว “ลัมโบร์กินี อูรุส” ปลายปี ส่วน “เบนท์ลีย์เบนเทย์ก้า” มา 3 คัน โดนจองเกลี้ยง ขณะที่ “มาเซราติ เลแวนเต้” ได้อานิสงส์ภาษีใหม่ทำราคาขายตํ่า หวังดันยอดขายฉลุย

ตลาดเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์ไม่ได้ฮอตฮิตป๊อปปูลาร์ อยู่ในระดับรถบ้านที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากรุ่นหลากยี่ห้อ ราคาขายตั้งแต่ 6 แสนบาท ไปจนถึงล้านต้นๆ เท่านั้น ทว่ากลุ่มรถยนต์ระดับหรูก็เห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า ต่างปั้นเอสยูวีสายพันธุ์ใหม่หรือค่ายไหนที่ไม่เคยมีโปรดักต์มาก่อน ต้องพัฒนาสรรหามาขายให้ได้

ทั้งนี้ในกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ปอร์เช่ ออดี้ คงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเตรียมทัพมาสักระยะแล้ว แต่ความน่าสนใจต้องมุ่งไปที่กลุ่มซูเปอร์คาร์ และรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ที่วางเครื่อง V6 V8 รวมถึง W12 พร้อมตอบสนองทั้งความแรงและความอเนกประสงค์ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของเศรษฐียุคใหม่

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว “ลัมโบร์กินี” สร้างความตะลึงให้ตลาดซูเปอร์คาร์ ด้วยการเปิดตัวต้นแบบเอสยูวีรุ่นใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า “อูรุส” (Urus) แม้การแนะนำรถลงสู่ตลาดอาจจะช้ากว่าแผนเดิมเล็กน้อย แต่รายงานข่าวล่าสุดค่อนข้างชัดเจนว่า เอสยูวีกระทิงเปลี่ยวจะเปิดตัวรุ่นโปรดักต์ชันในงาน “แฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2017” เดือนกันยายนนี้

อย่างไรก็ตาม “อูรุส” ไม่ได้เป็นเอสยูวีรุ่นแรกของลัมโบร์กินี เพราะช่วงปี 1980 เคยทำตลาดมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนรุ่นใหม่เตรียมขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานเมืองโบโลญญ่า ประเทศอิตาลี ในเดือนเมษายนนี้

“เราเตรียมขึ้นไลน์ผลิตรุ่นโปรโตไทป์ตัวสุดท้าย ก่อนผลิตรถโปรดักต์ชันคาร์ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งการเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ทำให้เราต้องพิถีพิถันในทุกขึ้นตอน รวมถึงบริการหลังการขายต้องพร้อมที่สุด”สเตฟาโน โดเมนิคาลี ซีอีโอ ของ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว

M36-3241-B สำหรับ “อูรุส” จะวางเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และมีโอกาสผลิตรุ่นไฮบริดในอนาคต ส่วนเมืองไทยน่าจะได้รถเดโมมาเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ ก่อนเริ่มส่งมอบรถได้ตั้งแต่ปีหน้า 2561 คาดราคาขายประมาณ 25-26 ล้านบาท

เอสยูวี “อูรุส” ถือเป็นโปรดักต์ความหวังของลัมโบร์กินี ที่จะเพิ่มยอดขายในหลายๆตลาดทั่วโลก โดย“วิทวัส ชินบารมี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจำหน่ายลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเปิดเผยว่า หลังการเปิดตัวทำตลาด “อูรุส” บริษัทแม่ที่อิตาลี อยากให้ทุกประเทศทำยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 100% อย่างเมืองไทยขายลัมโบร์กินีรวมทุกรุ่นปีละ 35 คัน ต้องเพิ่มเป็น 70 คัน ซึ่งในความเป็นจริงทำได้ 50 คันก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

“เมื่ออูรุส มาทำตลาดย่อมขายได้แน่นอน แม้ราคาจะสูงระดับ 25-26 ล้านบาท เพราะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรถขับขี่สบาย เป็นรถครอบครัวที่ให้ความอเนกประสงค์ ซึ่งการทำเอสยูวีของลัมโบร์กินีไม่มีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ เพราะช่วงทศวรรษที่ 80 เราเคยมีเอสยูวีทำตลาดมาแล้ว” นายวิทวัช กล่าว

ด้าน “เบนท์ลีย์” ที่ถือเป็นรถยนต์ในเครือโฟล์คสวาเกน(ออดี้) เหมือนลัมโบร์กินี แต่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ออกไปทางหรูหราเหนือระดับ กลับไม่ต้องไหว้ครูนาน เพราะเอสยูวีสายพันธุ์ใหม่รุ่น “เบนเทย์ก้า” (Bentayga) เริ่มทำตลาดในหลายประเทศทั่วโลกแล้ว

M36-3241-C สำหรับ“เบนเทย์ก้า” วางเครื่องยนต์เบนซิน บล็อก W12 สูบ ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 608 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ที่ 1,350 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 301 กม./ชม. ปัจจุบันถูกเคลมว่าเป็นเอสยูวีที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก

เอกราช นพเกตุ ผู้จัดการทั่วไป เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายเบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการในเมืองไทย เปิดเผยว่า “เบนเทย์ก้า”ได้การตอบรับดีจากหลายๆภูมิภาคทั่วโลก ด้วยสมรรถนะที่หาตัวจับได้ยาก พร้อมความหรูหราตามสไตล์เบนท์ลีย์ ซึ่งปีที่แล้วรถเข้ามา 3 คันถูกซื้อไปเรียบร้อย ส่วนปีนี้ได้โควต้ามาจำกัด 8 คันในปีนี้ มีลูกค้าจองมาแล้ว 5 คัน

“ตอนนี้เบนเทย์ก้า เป็นเอสยูวีที่เร็วและแพงที่สุดในโลก การออกแบบหรูหราและตัวถังขนาดใหญ่แต่มีระบบช่วยการขับขี่ในเมืองให้คล่องตัวและปลอดภัย โดยราคาเริ่มต้น 25.5 ล้านบาท หากสั่งจองวันนี้ต้องรอเวลารับรถประมาณ 6 เดือน” นายเอกราช กล่าว

ส่วน “มาเซราติ” แบรนด์หรูจากอิตาลีที่เพิ่งได้ตัวแทนจำหน่ายในไทยรายใหม่ “ดีไซน์ มอเตอร์เวอร์ค” ในเครือ เอ็มจีซี-เอเชีย พร้อมรบด้วยโปรดักต์ใหม่ “เลแวนเต้” (Levante) ที่ตั้งราคาไว้ 7.99 ล้านบาท และ 8.39 ล้านบาท วางเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล วี6 3.0 ลิตร 275 แรงม้า เป็นเอสยูวีสมรรถนะสูงรุ่นแรกของมาเซราติ หรือพัฒนามาจากต้นแบบรุ่น “คูบัง” (Kubang)

ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดีไซน์ มอเตอร์เวอร์คฯ ตัวแทนจำหน่ายมาเซราติ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการขายเติบโต 100% เมื่อเทียบกับตัวแทนจำหน่ายรายเดิม (เอ็มไพร์ มอเตอร์สปอร์ต ขายประมาณ 20 คันต่อปี) ด้วยการมีรถยนต์รุ่นใหม่ “เลแวนเต้” เอสยูวีพรีเมียมที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์มากจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ส่งผลทำรถยนต์มาเซราติมีราคาถูกลงเฉลี่ย 7-8%

...นั่นเป็นภาพของตลาดเอสยูวีระดับไฮเอนด์ ที่ตอบสนองความต้องการของเศรษฐีเท้าหนักแต่ยังรักครอบครัวได้เป็นอย่างดี ทั้งตัวแรง เบนเทย์ก้า อุรุส หรือความหรูที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายอย่าง เลแวนเต้ ขณะเดียวกันยังต้องจับตาการขยับของอัครยานยนต์โรลส์-รอยซ์ ที่มีแผนทำเอสยูวีรุ่นใหม่เช่นกัน และถ้ามาจริงๆราคาย่อมแพงกว่าบรรดารถทุกรุ่นที่กล่าวมานี้แน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,241 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2560