'แบ็ก&สปา'ปรับยุทธศาสตร์ ชูแฟรนไชส์โลว์คอสต์ราคาเดียว

04 มี.ค. 2560 | 07:00 น.
แบ็ก&สปาฯปรับโมเดลธุรกิจรับเศรษฐกิจชะลอตัว หลังความนิยมกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองพุ่งผุดแฟรนไชส์ราคาเดียว 1.5 แสนบาทเจาะกลุ่มผู้ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

นางสาวนพชลัยย์ วงศ์วัฒนาการ กรรมการผู้จัด บริษัท แบ็กแอนด์สปา คลีนนิ่ง คลับ จำกัด ผู้บริหารและเจ้าของแฟรนไชส์ "Bag & Spa Cleaning Club" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าแม้ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้จะไม่เติบโตมากนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าภาพรวมของธุรกิจการให้บริการซ่อมแซมกระเป๋า,เครื่องหนัง รวมไปถึงธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะกลับส่งผลดีต่อธุรกิจมากกว่าเนื่องจากผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมมือสองเพิ่มมากขึ้น เพราะประหยัดกว่าการซื้อสินค้าใหม่ราว 50%

ล่าสุดบริษัทปรับโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ใหม่ ด้วยการลดราคาและขนาดของแฟรนไชส์ลงเพื่อให้เหมาะสมกับการลงทุนของกลุ่มเป้าหมายในสภาวะที่เศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว โดยระบบแฟรนไชส์จะเหลือเพียงรูปแบบเดียวในราคา 1.5 แสนบาท จากเดิมที่มี 2 โมเดล คือ ขนาด S ในรูปแบบคีออส ราคา 3.5 แสนบาท และขนาด M ในรูปแบบช็อป ราคา 5 แสนบาท โดยบริษัทจะยังคงมีการให้คำปรึกษาในแง่ของการออกแบบตกแต่ง และอุปกรณ์พื้นฐาน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้

"แม้แฟรนไชส์ของบริษัทจะประสบผลสำเร็จในปีที่ผ่านมา โดยสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 4 เดือน จากเดิมที่คาดว่าจะต้องใช้เวลา 6-8 เดือน แต่ต้องยอมรับว่าปัจจัยทั้งสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมไปถึงอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมา จะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ทำให้บริษัทต้องปรับยุทธ์ศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจพร้อมปรับโมเดลธุรกิจรองรับ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและการลงทุน"

นอกจากนี้บริษัทยังเน้นพัฒนาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยหลักสูตรที่เปิดสอนประกอบไปด้วย คอร์สสปากระเป๋าแบรนด์เนม, คอร์สงานสีกระเป๋า และคอร์สซ่อมแซมกระเป๋า สนนราคาที่ 14,900 บาทพร้อมอุปกรณ์ 1 ชุดและคู่มือการสอน 1 ชุด โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามารับการเรียนการสอนนั้น แบ่งเป็นกลุ่ม ผู้ที่ต้องการนำไปประกอบอาชีพ 50% และกลุ่มที่ต้องการทำเป็นงานอดิเรก เพื่อไปดูแลกระเป๋า อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวอีก 50%

"ปัจจุบันมีผู้ที่ต้องการหาอาชีพเสริมและรายได้เพิ่มมากขึ้น สปาแบ็กถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตรงกับความต้องการ โดยช่วงที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเรียนในสถาบันแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มพนักงานประจำที่นำไปประกอบอาชีพหลังเลิกงาน มีรายได้ที่ 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน และกลุ่มผู้ที่ทำเป็นอาชีพหลักมีรายได้ 5 หมื่น- 1 แสนบาทขึ้นไป"

พร้อมกันนี้เพื่อเป็นการรองรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมาเรียนในสถาบันเพิ่มมากขึ้น ในปีนี้บริษัทได้เตรียมลงทุนก่อสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่เดิมย่านงามวงศ์วานพื้นที่ 200 ตร.ม. เพื่อใช้ในการเรียนการสอนเพิ่มเติมอีกด้วย และล่าสุดมีผู้สนใจลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ในสปป.ลาว และสวีเดนด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้จาก 3 ส่วนได้แก่ คอร์สเรียนสปากระเป๋า 70% รับทำสปากระเป๋า 20% และธุรกิจแฟรนไชส์ 10%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,240 วันที่ 2 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2560