เงินเก็บน้อย ดอกเบี้ยก็ต่ำ ทำอย่างไรดี

ถามกันเข้ามามากว่ายุคดอกเบี้ยต่ำแบบนี้จะทำอย่างไรให้เงินงอกเงย บอกได้เลยตอนนี้ทางเลือกลงทุนมีเยอะมากและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมมีตัวช่วยมีเครื่องมือให้เลือกใช้ฟรีๆบนโลกอินเตอร์เน็ต

หลายคนไม่เริ่มลงทุน เพราะคิดว่าต้องรอให้ตัวเองมีเงินเก็บก่อน มีเงินเยอะๆกว่านี้ก่อนค่อยเริ่ม ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดนะคะ ทุกคนควรเริ่มเก็บเงินและเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ มีน้อยก็เริ่มจากน้อยๆเนี่ยแหละ ใครเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ

จะเริ่มลงทุนอย่างไรดี? ทำความรู้จักตัวเองก่อนเลยค่ะ ถามตัวเองก่อนว่าอยากลงทุนไปเพื่ออะไร เป้าหมายของชีวิตคืออะไร ความฝันคืออะไร ถ้ายังคิดไม่ออกตอนนี้ ไม่เป็นไร ให้เริ่มจากเป้าหมายร่วมที่ทุกคนต่างก็ต้องเผชิญเหมือนๆกัน นั่นคือ ชีวิตหลังเกษียณ ช่วงที่ไม่มีงาน ไม่มีแรง ความเจ็บป่วยถามหา การมีเงินดีกว่าไม่มี ดังนั้น ต้องลงทุนเตรียมรับช่วงเกษียณอายุตั้งแต่ยังไม่เกษียณ

หลังจากรู้แล้วว่าจะลงทุนเพื่ออะไร จุดประสงค์ของการใช้เงินคืออะไร เราจะเห็นภาพว่า ต้องลงทุนระยะสั้น กลาง หรือยาวแค่ไหน (goal base) ซึ่งระยะเวลาในลงทุน จะสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้ (risk appetite)

สมมติ เริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 20 ปี เพื่อรับวัยเกษียณ กับคนที่ลงทุนตอน 58 ปี พอร์ตการลงทุนย่อมต่างกันแน่นอน คนแรก ลงทุนแบบยาวได้ รับความเสี่ยงได้มากกว่า แตกต่างกับคนที่ 2 ที่ต้องลงทุนสั้นๆ และความเสี่ยงน้อยๆ แต่อายุไม่ใช่ปัจจัยเดียวของการกำหนดความเสี่ยงของแต่ละคน ยังมีปัจจัยอื่นๆหลายอย่างประกอบ เราสามารถเดินเข้าไปหาสถาบันการเงินเพื่อขอรับคำปรึกษาเรื่องการลงทุนโดยเริ่มจากการหา risk appetite ของตัวเองได้

สำหรับผู้อ่านที่อยากเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้เลย จะลองคิดคำนวณคร่าวก็ได้ว่าตัวเองเป็นกลุ่มรับความเสี่ยงได้น้อยหรือมาก แล้วมาดูการลงทุนที่เหมาะสมไปด้วยกัน

ผู้ที่นิยมลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ หรือมีความต้องการใช้เงินระยะสั้น ไม่มีอะไรดีกว่าเงินฝาก เป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องสูงสุด หรือจะลงทุนใน Money Market กองทุนตราสารเงินก็ได้

ปัจจุบัน ดอกเบี้ยออมทรัพย์อยู่ที่ 0.4-0.5% ต่อปี แต่ก็มีหลายธนาคารที่เสนอบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยพิเศษที่จ่ายดอกเบี้ย 1-2.5% ต่อปี แต่อย่าลืมดูดอกจันด้วย ว่าฝากขั้นต่ำกี่บาท ถอนได้กี่ครั้ง ประเภทที่ 2 คือ เงินฝากประจำ หรือ term fund ของกองทุนก็ได้ อย่างไรก็ดี เงินฝากประจำที่มีอยู่ในขณะนี้ ดอกเบี้ยอาจสู้เงินฝากออมทรัพย์พิเศษบางโปรแกรมไม่ได้ งั้นขอข้ามมาพูดถึง term fund เลย สำหรับ term fund ต้องดูว่าเป็นกองที่ไปลงในตราสารอะไร หุ้นกู้ หรือตั๋วแลกเงินตัวไหน ผลตอบแทนประมาณ 1.5-2% แต่ยอมรับว่า จากข่าวตั๋วแลกเงินที่มีมาก่อนหน้านี้ ทำให้ช่วงนี้นักลงทุนจะเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ไม่นิยมลงทุนกันเท่าไหร่

ถามว่า ผลตอบแทน ข้างต้นที่กล่าวมาจะพอกับเงินเฟ้อไหม ตอบได้เลยว่าไม่พอ เพราะฉะนั้น เราต้องพยายามดันผลตอบแทนให้สูงขึ้นไปอีก ดังนั้น การลงทุนตัวถัดไปที่อยากแนะนำคือ หุ้นกู้ วันนี้หุ้นกู้มีทั้งตลาดแรกและตลาดรอง ซึ่งนักลงทุนทั่วไปยังนิยมลงทุนในตลาดแรกเท่านั้น ทั้งๆที่ตลาดรองมีความน่าสนใจและมีเทคนิคดีๆซ่อนอยู่ ขอเก็บไว้เล่าในบทความฉบับถัดไปค่ะ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560