เล็งจัดหาที่ดินหนุนอีอีซี ตั้งศูนย์เบ็ดเสร็จดึงลงทุน

28 ก.พ. 2560 | 06:00 น.
กนอ.จี้หารือสมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทยฯ เตรียมพร้อมพัฒนาที่ดิน 5 หมื่นไร่ รองรับการลงทุน 5 ปีในอีอีซี หลังทัพนักลงทุนในกลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วน และอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาติดต่อ พร้อมเปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ 2 แห่งที่แหลมฉบังและมาบตาพุดรองรับ

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่มผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ กนอ.จะร่วมหารือกับสมาคมนิคมอุตสาห กรรมไทยและพันธมิตรเพื่อชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีที่มีเป้าหมายใช้พื้นที่สำหรับการลงทุนในอนาคตราว 1.8 แสนไร่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง โดยในช่วง 5 ปีแรก อาจจะใช้พื้นที่อยู่ราว5 หมื่นไร่ก่อน

ดังนั้น การทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการพัฒนานิคมฯ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ในการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอกชนจะร่วมมือกับกนอ.ในการพัฒนาหรือจัดหาพื้นที่ได้อย่างไร เนื่องจากปัจจุบันมีพื้นที่ที่พัฒนาแล้วจำนวน 1.5 หมื่นไร่ และพร้อมที่จะพัฒนาอีก 1.5 หมื่นไร่ และเป็นในส่วนของเขตอุตสาหกรรมอีกราว1 หมื่นไร่ ซึ่งการจัดหายังขาดอยู่อีกราว 1 หมื่นไร่ ซึ่งจะมีการหารือกันว่าในส่วนนี้จะร่วมกันจัดหาหรือพัฒนาร่วมกันได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ของภาคเอกชนและของ กนอ.ที่มีอยู่ในอีอีซีเวลานี้ พร้อมที่จะรับการลงทุนของภาคเอกชนแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็มีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้เริ่มทยอยเข้ามาสอบถามและให้ความสนใจที่จะขยายการลงทุนมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับนักลงทุนดังกล่าว นายอุตตมสาวนายนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก จึงมอบหมายให้กนอ.ไปเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร (Total Solution Center: TSC)เพื่อให้บริการด้านการอนุมัติ อนุญาตแบบครบวงจร (One Stop Service) แก่นักลงทุน โดยศูนย์แห่งแรกจะเปิดให้บริการที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังก่อนในช่วงกลางปีนี้ และในช่วงปลายปี 2560 จะเป็นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นแห่งที่ 2 โดยทั้ง 2 แห่งนี้ จะใช้งบประมาณสำหรับก่อสร้างอาคารทำการรวมประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมงบในการวางระบบด้านไอที

สำหรับการจัดตั้งศูนย์ดังกล๋าวจะเป็นประโยชน์ส่งเสริมด้านการลงทุนที่จะตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนในพื้นที่อีอีซี ให้เกิดความสะดวก และมีความรวดเร็ว ในการออกใบอนุญาตต่างๆ เสริมขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง

นายวีรพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนทิศทางการลงทุนในภาค อุตสาหกรรมปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่เริ่มมีการฟื้นตัว คาดว่าจะทำให้กระแสการลงทุนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเครื่องจักรสำหรับในการดึงดูดนักลงทุนไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ พ.ร.บ.การเพิ่มขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และพ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งทยอยออกมาเป็นระยะๆ จะช่วยให้นักลงทุนเร่งตัดสินใจที่จะมาลงทุนได้เร็วขึ้น

ดังนั้น กนอ.จึงวางเป้าหมายที่จะขายและให้เช่าที่ดนิ ของนคิ มฯ กอน.ที่ดำเนินการเองและที่ร่วมกับเอกชนในปีนี้ประมาณ 3,000 ไร่ เพิ่มจากปีก่อนที่มียอดประมาณ 2,700 ไร่ ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจและการส่งเสริมการลงทุน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560