คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยพ.ค. เผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้นปีแนวโน้มสดใส

20 ก.พ. 2560 | 14:00 น.
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในเดือนมกราคมประกอบกับคำกล่าวของนางเจเน็ต เยลเลน ทำให้นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปเร็วขึ้นกว่าเดิมที่คาดหมายว่า ถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเข้มแข็งต่อเนื่อง

คำกล่าวของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ ที่ระบุว่าโอกาสขึ้นดอกเบี้ยยังคงเป็นไปได้ในการประชุมทุกครั้ง ทำให้นักลงทุนมองโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าหรือครั้งต่อไปสูงขึ้น ขณะที่ความแข็งแกร่งของตัวเลขยอดขายค้าปลีก และเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดหมาย ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ปรับเปลี่ยนคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเร็วขึ้นกว่าเดิม

นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกน ปรับเปลี่ยนคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจากเดือนมิถุนายน มาเป็นเดือนพฤษภาคม โดยประเมินจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว "เรายังเชื่อว่าเดือนมีนาคมเร็วเกินไปที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่เชื่อว่าเดือนมีนาคมจะเป็นการประชุมที่ดีในการเตรียมการให้ตลาดสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 3 พฤษภาคม"

ด้านนักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นกว่าที่คาดหมาย โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเป็น 30% จาก 20% ที่คาดไว้แต่เดิม ขณะเดียวกันยังมองโอกาสที่จะปรับดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมสูงกว่า "โดยสรุปแล้ว เวลานี้เราคิดว่ามีความเป็นไปได้เท่าๆ กัน ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมภายใน 2 ครั้งข้างหน้า หรือรอจนกระทั้งเดือนมิถุนายน และเราเชื่อว่ามีโอกาสถึง 90% ที่จะมีการปรับดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงครึ่งปีแรก"

นางเยลเลนกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า "เราจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างแน่นอนเมื่อใด มีนาคม พฤษภาคม หรือมิถุนายนนั้น ยังบอกไม่ได้ บอกได้เพียงแต่ว่าการประชุมทุกครั้งมีความเป็นไปได้"

ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า ในการประชุมครั้งต่อๆ ไป คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดจะประเมินว่าอัตราการจ้างงานและเงินเฟ้อมีพัฒนาการไปในทิศทางที่ตรงกับความคาดหมายอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นไปตามเป้าหมาย ก็มีความเหมาะสมที่จะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ประธานเฟดยังคงกล่าวเน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างช้าๆ "ถ้าเรารอนานเกินไปที่จะเพิ่มความเข้มงวดของนโยบายจะเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาด โดยท้ายที่สุดอาจทำให้เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งอาจเสี่ยงที่จะกระทบตลาดการเงินและผลักดันเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย" นางเยลเลนกล่าว

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนธันวาคมปีก่อน นับเป็นการเพิ่มขึ้นในรอบเดือนที่สูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะเดียวกันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553

ยอดขายค้าปลีกเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายในเดือนมกราคมเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.4% นักเศรษฐศาสตร์ใช้ตัวเลขดังกล่าวในการคำนวณการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตในไตรมาสแรกจะถูกปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตในไตรมาสแรกจาก 1.9% เป็น 2.1%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,237 วันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ 2560