กรมชลประทานเตรียมพร้อมเครื่องจักรรับฝนอีกระลอก 16-18 ม.ค.นี้

15 ม.ค. 2560 | 06:18 น.
กรมชลประทาน เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และตรวจสอบอาคารชลประทาน พร้อมเร่งระบายน้ำในระบบลงสู่ทะเล เตรียมรับสถานการณ์น้ำ หลังกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนจะมีฝนตกหนักอีกระลอก นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างมาก ได้สั่งการให้กรมชลประทานเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งในเรื่องของเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฝนระลอกใหม่ที่จะตกลงมาอีก หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 16-18 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส  ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันมีจังหวัดที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนนครสรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง โดยที่นครศรีธรรมราช สถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอชะอวด ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ยังคงมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำก่อนออกสู่ทะเล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 340 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่ท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องมาจากกรมชลประทาน ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลเพิ่มเติม ทำให้ปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การระบายน้ำยังต้องคำนึงถึงการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้านี้ด้วย

ทั้งนี้ มีเครื่องสูบน้ำที่ส่งเข้าไปช่วยเหลือเป็นจำนวนทั้งสิ้น 93 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำอีก 68 เครื่อง และยังมีเรือผลักดันน้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรืออีก 70 เครื่องด้วย นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ขนาด 3 ลบ.ม./วินาที เร่งระบายน้ำในพื้นที่บ้านบางไทร ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งจะทำให้การระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้รวดเร็วมากขึ้น หากฝนไม่ตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะสถานการณ์จะเข้า   สู่ภาวะปกติภายใน  1 - 2 วัน

ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ที่อ.พระแสง เสมอระดับตลิ่ง แนวโน้มลดลง คาดว่าระดับน้ำจะต่ำกว่าตลิ่ง ในวันนี้(15 ม.ค. 60)  ส่วนที่อ.เคียนซา ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 1.53 เมตร แนวโน้มทรงตัวและลดลง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันที่ 19 ม.ค. 60 และที่อ.พุนพิน ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 15 เซนติเมตร (เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) คาดว่าจะมีระดับน้ำล้นตลิ่งสูงสุดไม่เกิน 70  เซนติเมตร ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม  กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายน้ำในแม่น้ำตาปี 10 เครื่อง และได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จากกองทัพเรืออีก 26 ลำ เพื่อให้ระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็วที่สุด

ในส่วนของเครื่องจักร เครื่องมือ ที่กรมชลประทานได้จัดส่งไปสนับสนุนการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ภาคใต้ จนถึงปัจจุบัน สรุปได้ดังนี้ เครื่องสูบน้ำที่ออกปฏิบัติการ รวมทั้งสิ้น 143 เครื่อง มีเครื่องสูบน้ำที่พร้อมใช้งานสำรองไว้อีก 96 เครื่อง ส่วนเครื่องผลักดันน้ำ มีที่ออกปฏิบัติการ รวมทั้งสิน 83 เครื่อง สำรองพร้อมใช้งานอีก 29 เครื่อง และสถานีสูบน้ำอีก 8 สถานี นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ จากส่วนกลางไว้เพิ่มเติมประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำ 388 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 51 เครื่อง