ต้อนรับเครื่องบินใหม่ แอร์บัส เอ 320 นีโอ ‘พาน้องท่องฟ้า ตามรอยพ่อ...ตอนพลังงานทดแทน’

14 ม.ค. 2560 | 12:00 น.
สายการบินไทยแอร์เอเชียจัดพิธีต้อนรับเครื่องบินลำใหม่ล่าสุด แอร์บัส เอ 320 นีโอลำแรกของเมืองไทยประจำฝูงบิน พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์ของ CFM International รุ่น LEAP-1Aเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้มากถึง 15% ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวนอกจากช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ 5,000 ตันต่อลำต่อปี อีกทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ยังช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารให้เงียบลงกว่าปกติโดยเมื่อเครื่องไต่ระดับแล้วจะแทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลย ซึ่งในอนาคตเมื่อมีเครื่องบินเอ 320 นีโอ เข้าสู่ฝูงบินจำนวนมากขึ้น จะเห็นภาพการประหยัดเชื้อเพลิงในภาพรวมได้อย่างชัดเจนตอกยํ้าการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของสายการบินในภูมิภาค

ในวันเดียวกัน แอร์เอเชียได้นำเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 นีโอ จัดกิจกรรมเที่ยวบินพิเศษ ในโครงการ “พาน้องท่องฟ้า ตามรอยพ่อ...ตอนพลังงานทดแทน” โดยพาเยาวชนจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ จาก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร พิษณุโลก และน่าน รวม 75 คน มาเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงาน ณ สถานีวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทนจากนํ้ามันปาล์มและพืชนํ้ามัน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อสานต่อโครงการในพระราชดำริ

MP-31-3227-f งานนี้น้องๆ จากคณะโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ มีแววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้นตลอดการเดินทางกับการได้ขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิตของน้องๆ พร้อมทั้งกิจกรรมสนุกๆ บนเครื่องบินตลอดเส้นทาง จากกรุงเทพฯจนถึงหาดใหญ่ พร้อมกันนี้ยังได้รับฟังบรรยายจากคุณสัณห์ชัย กลิ่นพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ช่วงบรรยายพิเศษเป็นการเล่าให้น้องๆ เยาวชนจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ฟังถึงเรื่องราวครั้งประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จฯมาทอดพระเนตรสวนปาล์มนํ้ามันที่นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูลเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2518 ในครั้งนั้นทรงพระราชทานการบ้านชุดที่ 1 ไว้กับ นายสัณห์ชัยและคณะ ให้สร้างเครื่องหีบนํ้ามันปาล์มแทนเครื่องหีบ STORK ที่นำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ทรงให้เป็นการบ้านไว้และทรงรับสั่งว่าปีหน้าจะเสด็จฯมาตรวจการบ้านเพื่อติดตามผลงาน

จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้นจึงเป็นที่มาของการจุดประกายความคิดในการทำวิจัยและพัฒนาโรงงานไบโอดีเซลต้นแบบ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แห่งนี้ และยังได้มีโอกาสส่งนักวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมทำงานสนองพระราชดำริในเรื่องของการแปรรูปปาล์มนํ้ามันขนาดเล็กครบวงจร การผลิตไบโอดีเซล โครงการปลูกข้าวเพื่อบริโภค ฯลฯ และทรงให้การบ้านอย่างต่อเนื่องถึง 10 ชุดด้วยกัน และทรงติดตามการบ้านทุกเรื่องที่ทรงรับสั่งไว้ การบ้านก็ยังไม่หมดหลังจากการบ้านชุดที่ 10 ในโครงการพัฒนาเกาะบูโหลน จังหวัดสตูล ก็มีการบ้านชุดที่ 11 คือโครงการพัฒนาหลักสูตรการบริการและการท่องเที่ยวที่โรงเรียนคุระบุรี-ชัยพัฒนาพิทยาคม ฯลฯ ที่พระราชทานมาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะยังคงสานต่อตามรอยพ่อเรื่อยไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้จดจำและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ได้ทรงงานอย่างไม่มีวันหยุดเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ นับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงครองราชย์ในปี 2493 เป็นต้นมา หลังจากฟังบรรยายจบน้องๆ ได้ร่วมเรียนรู้การพัฒนาพลังงานทดแทนไบโอดีเซล ในทุกขั้นตอนเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดในท้องถิ่นและชุมชนของตนเองต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่ 15 - 18 มกราคม 2560