ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังปริมาณการส่งออกอิรักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

11 ม.ค. 2560 | 02:22 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 11 ม.ค.2560

- ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ออีกราวร้อยละ 2 หลังดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (U.S. Dollar Index) แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดเริ่มมีความไม่แน่ใจต่อข้อตกลงในความร่วมมือการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกและนอกโอเปกที่ได้ข้อสรุปในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559

- อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ลำดับที่ 2 ในกลุ่มโอเปกเปิดเผยว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ Basra ในเดือนกุมภาพันธ์คาดว่าจะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากระดับคาดการณ์ในเดือนมกราคมที่ 3.53 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีทิศทางขัดแย้งกับข้อตกลงที่อิรักเคยประกาศไว้ในการประชุมโอเปกว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงได้ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน

- หลังตลาดปิดทำการซื้อขาย สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) ได้ออกมารายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ 484.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคงคลังทุกชนิดยังปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

-/+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ขยับตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 2561 ขึ้นเป็น 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560 พร้อมปรับการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 20.22 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 19.85 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเวลาเดียวกัน

+ อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียได้ออกมาเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมกราคมของประเทศจะลดลง 486,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 10.058 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นการปรับลดราวร้อยละ 4.61 จากระดับ 10.544 ล้านบาร์เรลต่อวันที่เคยผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2559 นอกจากนี้ ซาอุดิอารัมโกยังได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มมีการเจรจากับลูกค้าทั่วโลกเพื่อหารือเกี่ยวกับการลดการส่งมอบน้ำมันดิบลงราวร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 7 ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกด้วย

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานจีนที่อยู่ในระดับสูง หลังมีการรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินในประเทศจีนปรับตัวขึ้นกว่าร้อยละ 13 ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในขณะที่อุปสงค์อ่อนตัวลงเล็กน้อย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการซื้อน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับลดโควต้าการนำเข้าน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปในประเทศจีนไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก เนื่องจากกำลังการผลิตภายในประเทศมีมากเพียงพอต่อความต้องการ

oil0111-1 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาการปรับลดปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกซึ่งมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 60 เป็นต้นไป โดยล่าสุดซาอุดิอาระเบีย และ อิหร่านให้ความเชื่อมั่นว่าข้อตกลงจะบรรลุผล ในขณะที่คูเวตออกมายืนยันว่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัฐบาลจะปรับลดกำลังการผลิต ส่วนผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอย่างโอมาน เผยว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิตลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ในเดือน มี.ค. 60 อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตามองการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 21 – 22 ม.ค. 60 ณ กรุงเวียนนา

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันที่เชื่อมกับแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 0.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ El Feel กำลังการผลิต 0.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับเกือบ 0.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 0.60 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์