ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังอิรักส่งออกน้ำมันเพิ่มและแท่นขุดเจาะสหรัฐฯเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

10 ม.ค. 2560 | 01:46 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 10 ม.ค.2560

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังการส่งออกน้ำมันดิบจากอิรักปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ธ.ค. แตะระดับ 3.51 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) ว่าจะไม่เป็นไปตามคาด อย่างไรก็ตาม นาย Jabar Ali al-Luaibi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังคงยืนยันว่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตรวมของ OPEC เพราะอิรักจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 200,000 บาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 4.351 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- นอกจากนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯ ที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบจะไม่ประสบความสำเร็จ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาBaker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซปรับเพิ่มขึ้นอีก 7 แท่นทำให้ปัจจุบันมีแท่นขุดเจาะรวม 665 แท่น และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปี 2560 สหรัฐฯ จะมีจำนวนแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ 850-875 แท่น

-/+ Barclays คาดว่าในปี 2560 การลงทุนเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกจะปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยในทวีปอเมริกาเหนือการสำรวจและผลิตจะเติบโตถึงร้อยละ 27 อย่างไรก็ตาม Barclays คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบจะไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขุดเจาะยังคงไม่คุ้มทุนเมื่อเทียบกับระดับราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน

+/- ในวันที่ 21-22 ม.ค. กลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) เตรียมจัดการประชุม ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการการติดตามผลของการลดกำลังการผลิต โดยตัวเลขของกำลังการผลิตที่ปรับลดน่าจะมีความชัดเจนตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นไป

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ ตามราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสหรัฐฯ (NYMEX) ที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปสงค์ในเอเชียโดยภาพรวมยังคงทรงตัว

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่นเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดีเซลขึ้นร้อยละ 1.5 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาและปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.8 แตะระดับ 9.54 ล้านบาร์เรล กดดันตลาดน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง

oil0110-1 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาการปรับลดปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกซึ่งมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 60 เป็นต้นไป โดยล่าสุดซาอุดิอาระเบีย และ อิหร่านให้ความเชื่อมั่นว่าข้อตกลงจะบรรลุผล ในขณะที่คูเวตออกมายืนยันว่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัฐบาลจะปรับลดกำลังการผลิต ส่วนผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอย่างโอมาน เผยว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิตลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ในเดือน มี.ค. 60 อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตามองการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 21 – 22 ม.ค. 60 ณ กรุงเวียนนา

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 59 ปรับลดลงราว 7.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโรงกลั่นเพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นในช่วงปลายปีเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันที่เชื่อมกับแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara กำลังการผลิต 0.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ El Feel กำลังการผลิต 0.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับเกือบ 0.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 0.60 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์