"สมคิด"เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมกับอลีบาบายกระดับธุรกิจเอสเอ็มอี

11 ต.ค. 2559 | 06:40 น.
"สมคิด" รองนายกรัฐมนตรี เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมกับบริษัท อลีบาบา ศึกษาแผนการยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ เพิ่มโอกาสทางการค้าในตลาดโลก ตั้งเป้าหมายให้เสร็จภายใน 1 ปี

[caption id="attachment_105244" align="aligncenter" width="503"] พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปทักทาย พูดคุยกับ นาย แจ็ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปทักทาย พูดคุยกับ นาย แจ็ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น[/caption]

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การเดินทางมาของ นาย แจ็ค หม่า ครั้งนี้ไม่ได้ต้องการจะเข้ามาลงทุนในไทย แต่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และ สตารท์อัพ เพื่อยกระดับการเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 จะเน้นใช้เทคโนโลยีและดิจิตอลไทย เนื่องจากบริษัท อลีบาบา มีความเชี่ยวชาญธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัท อลีบาบา ได้ผลักดันธุรกิจขนาดเล็กในจีนและอีกในหลายประเทศจนประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงอยากจะเข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอี และ สตาร์ทอัพ ของไทย เพราะปัจจุบันธุรกิจที่อยู่ไทยร้อยละ 90 เป็นธุรกิจเอสเอ็มอี จึงต้องการผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้มีโอกาสค้าขายในตลาดต่างประเทศมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังต้องการอบรมนักธุรกิจไทยให้เข้าใจวิธีการค้าขายสินค้าผ่าน e-commerce ที่จะต้องสร้างความตื่นตัวให้กับเด็กรุ่นใหม่ เข้าใจวิธีการขาย ซึ่งบริษัทอลีบาบา เคยทำในจีนและประสบความสำเร็จมาแล้ว

ดังนั้น รัฐบาลจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 คณะแบ่งเป็นคณะทำงานของไทย และคณะทำงานจากบริษัทอลีบาบา เพื่อวางแผน หรือ Action plans ร่วมกันให้เสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ ปี 2560 ซึ่งทางบริษัท อลีบาบา ต้องการเชิญชวนให้รัฐบาลไทยและผู้ประกอบการไปดูงานของบริษัทในจีนที่มีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในยุคดิจิตอล และวิธีการทำอย่างไรถึงจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ พร้อมกับส่งเสริมสถาบันศึกษาและชุมชนให้เข้าใจวิธีการทำธุรกิจในยุคดิจิตอลด้วย

นอกจากนี้ นายแจ็ค หม่า ยังสนับสนุนที่ไทยผลักดันโครงการระบบการชำระเงินผ่านอิเล็คทรอนิกส์ หรือ e-payment ของรัฐบาล เพราะไม่เพียงแต่จะลดการใช้เงินสดในอนาคต แต่จะช่วยเก็บข้อมูลของลูกค้า ทราบถึงความต้องการสินค้า และสามารถนำมาพัฒนาสินค้าและธุรกิจให้เหมาะสมกับความต้องการได้มากขึ้น  โดยบริษัทอลีบาบา ยินดีจะให้คำแนะนำกับรัฐบาลไทยโดยเฉพาะระบบความปลอดภัยไม่ให้ระบบมีข้อบกพร่องหรือไม่ให้เกิดการฉ้อฉลได้ พร้อมทั้งร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สนับสนุนนักท่องเที่ยวจีนที่มีคุณภาพเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังสนใจที่จะร่วมลงทุนใน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี โดยนายแจ็ค หม่า ต้องการจะปรับไอเดีย สร้างการจัดตั้งเขตการค้าเสรี หรือ ฟรีเทรดโซน สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อปลอดภาษีอากรนำเข้า-ส่งออก เพื่อสร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าของเอสเอ็มอี จากปัจจุบันที่ไทยมีฟรีเทรดโซนเฉพาะธุรกิจรายใหญ่เท่านั้น