‘อุดมเดช’เร่งเครื่องภารกิจใหม่ ก่อนบินไต้หวันประชุมแทน‘บิ๊กป้อม’

12 ต.ค. 2559 | 10:30 น.
ชื่อ "บิ๊กโด่ง" พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลางโหม ร้อนฉ่ามาตั้งแต่นั่งเป็น ประธานจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่งานนี้เล่นเอาเกือบหมดอนาคต ก่อนจะฝ่ามรสุมเดือดออกมาได้แบบซ้ำใน รอยแผลยังไม่ทันหายสนิท ก็มีพรายกระซิบบอกว่า เตรียมสวมบทสำคัญอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่ธรรมดา

เมื่อมีกระแสจะถูกดึงให้มานั่งเป็น "ประธานคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้" หรือ ครม.ส่วนหน้า ทำงานขึ้นตรงกับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จนเจ้าตัวออกมายืนยัน ย้ำว่า

"..พร้อมทำหน้าที่หากได้รับมอบหมาย.."




[caption id="attachment_105266" align="aligncenter" width="700"] โครงสร้าง  ครม.ส่วนหน้า โครงสร้าง  ครม.ส่วนหน้า[/caption]

กระทั่งวันที่ 4 ตุลาคม รายชื่อ ครม.ส่วนหน้า ก็ปรากฏต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ โดยที่ประชุม ครม.รับทราบรายงานการเสนอแต่งตั้งดังกล่าว ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ เห็นชอบ จำนวน 13 ราย (ตารางประกอบ)

นั่งเก้าอี้ไม่ทันร้อน ถัดมา 1 วัน (5 ตุลาคม) "บิ๊กโด่ง" กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในฐานะประธานผู้แทนพิเศษใต้ว่า เตรียมเรียกประชุมคณะทำงานทั้งคณะครั้งแรกในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ เพื่อมอบหมายงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 กลุ่มงาน คือ 1.การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 2.การอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 3.การสร้างความเข้าใจทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน 4.การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5.การพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ คุณภาพชีวิตของประชาชน 6.การเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐและการการขับเคลื่อนนโยบาย และ7.การแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี

"..จะแบ่งกลุ่มงาน 13 คนใน 7 กลุ่มงานเพื่อให้ได้ทราบกรอบงานและภาระหน้าที่ของแต่ละคนที่จะต้องรับผิดชอบอย่างชัดเจน รวมไปถึงความรับผิดชอบในกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และต้องประสานงานด้วย พร้อมกับจะได้มอบหมายงาน และให้เวลากลับมาพูดคุยอีกครั้งโดยเร็ว" พล.อ อุดมเดช ระบุและว่า ยังไม่สามารถลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปร่วมประชุมแทน "บิ๊กป้อม-พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เชียงซาน ประเทศไต้หวัน กำหนดกลับถึงไทยวันที่ 12 ตุลาคมนี้ การวางแผนเดินทางลงพื้นที่จึงจะสามารถกำหนดวันได้ในช่วงท้ายของสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้กำหนดการลงไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะจัดแบ่งการทำงานเป็นอยู่ที่ใต้ 3วัน อีก 3 วันอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งจะใช้ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย จังหวัดปัตตานี ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับค่ายอิงคยุทธบริหาร เป็นศูนย์ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แทนพิเศษแก้ปัญหาใต้

"ผมตั้งใจจะขับเคลื่อนงานให้เกิดผลงานให้ได้ โดยจะแปลงคำสบประมาทให้เป็นแรงผลักดัน เพื่อให้งานประสพผลสำเร็จให้ได้ และแม้คณะผู้แทนชุดนี้จะมีทหารอยู่มาก แต่ก็ถือ เป็นทหารที่มีประสบการณ์ เคยผ่านงานในพื้นที่มาก่อน"
รอพิสูจน์ผลการทำงานของ ครม.ส่วนหน้ากันได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,199 วันที่ 9 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559