ศึกซักฟอก “วัดบารมี” บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่

17 ก.ค. 2565 | 03:30 น.

ศึกซักฟอก “วัดบารมี” บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่ : คอลัมน์คันฉ่องส่องการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3781 หน้า 12 โดย...นาย NO VOTE

“เวลานี้ เราประกาศตัวชัดเจนให้ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และ นายไผ่ ลิกค์ ลาออกจากวิปรัฐบาล เมื่อออกมาแล้วก็ควรให้ชัดเจน เวลานี้ผู้นำฝ่ายค้านยังไม่ได้คุยกับเรา ถามว่าเราอยู่กับฝ่ายค้าน 100% หรือยัง ก็ยัง มันเป็นกระบวนการต่อไปที่เราต้องไปคุยต่อ แต่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราประกาศว่า ทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบเป็นทิศทางเดียวกันกับฝ่ายค้าน” นั่นคือคำประกาศของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ 

 

การถอนตัวจากรัฐบาลดังกล่าว เป็นผลพวงจากการที่ผู้สมัครส.ส.ของ “พรรคเศรษฐกิจไทย” พ่ายแพ้อย่างย่อยยับให้กับ “พรรคเสรีรวมไทย” ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต 4 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส ได้บทสรุปว่า “คนภาคเหนือ และ คนอีสาน ไม่เอารัฐบาล เมื่อท่าทีของพรรคเศรษษฐกิจไทย ไม่ชัดเจนว่าจะดำรงสถานะไหน และชักเข้าชักออก จากการลงมติรับร่างกฎหมายงบประมาณ พ.ศ.2566 ทำให้คนสับสน อีกทั้งการซาวน์เสียง 77 จังหวัดจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เห็นชัดว่าประชาชนเดือดร้อนจากวิกฤติโรคระบาดและวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นการแสดงสถานะเลือกข้างประชาชนที่ผ่านมา ภาพยังไม่ชัด”

เมื่อ “พรรคเศรษฐกิจไทย” ถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน “ศึกใหญ่” ที่รออยู่ในสัปดาห์คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 10 รัฐมนตรี ที่กำหนดมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. และลงมติในวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.2565 ย่อมสร้างความ “หวาดเสียว” ให้กับรัฐบาล และ รมต.ที่ถูกซักฟอก อยู่ไม่น้อย ว่าจะได้ “ไปต่อ” หรือ “ยุติ” เพียงเท่านี้
 

เพราะเมื่อเสียงสนับสนุนรัฐบาลจาก “พรรคเศรษฐกิจไทย” หายไป 16 เสียง จะทำให้เสียงฝ่ายรัฐบาลเหลือเพียงจำนวน 253 เสียง จากเดิม  269 เสียง ขณะที่ปัจจุบันทั้งสภามีส.ส.อยู่ 477 เสียง เป็นของฝ่ายค้าน 208  เสียง  

และหากบรรดา “พรรคเล็ก” ตัดสินใจถอนตัวจากรัฐบาลอีก และมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้สูงใน 4 พรรค  5 เสียง คือ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง พรรคไทรักธรรม 1 เสียง ก็จะทำให้ “ขั้วรัฐบาล” มีส.ส.เหลือในมือเพียง 248 เสียง

 

ผลที่ตามมาก็คือ จะทำให้ความห่างกันระหว่างเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทิ้งระยะห่างกันแค่ 19 เสียง 

 

แม้ฝ่ายรัฐบาลจะพออุ่นใจได้บ้างว่า ยังมี “ส.ส.งูเห่า” ที่ปันใจสนับสนุนรัฐบาลอยู่ 10-15 เสียง แต่ “การเมือง” บางครั้งอะไรที่ว่า “แน่” ก็เอาแน่นอนไม่ได้เหมือนกัน


พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 ระบุว่า “กลุ่ม 16 พร้อมจับมือทำงานกับ ร.อ.ธรรมนัส ในวันที่ 18 หรือ 19 ก.ค.นี้ ร.อ.ธรรมนัส จะหารือกับกลุ่ม 16 ถึงการทำงานร่วมกัน เบื้องต้นจะหารือไปที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถ้ากลุ่ม 16 และพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีเสียงรวมกัน 32 เสียง ยกมือไม่ไว้วางใจรมต.คนใด จะสะเทือนถึงขั้นหลุดจากเก้าอี้ แนวโน้มกลุ่ม 16 กับ ร.อ.ธรรมนัส น่าจะยกมือไปทางเดียวกัน


ส่วนแนวทางการถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลของ “พรรคเล็ก” นั้น พิเชษฐ สถิรชวาล บอกว่า จะไปหารือกันในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยจะดูจากผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรมต.ก่อน แล้วค่อยมาวัดผลกัน มีรมต.ตอบคำถามได้ไม่เคลียร์ พรรคเล็กจึงค่อยมาพิจารณาว่าจะถอนตัวจากรัฐบาลหรือไม่

 

 แต่ก่อนที่จะถึงวันที่ “พรรคเล็ก” ตั้งวงหารือกันถึงท่าที่ในการร่วมรัฐบาล ก็ปรากฏว่า ในวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. เวลา 17.00 น. “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเปิดมูลนิธิป่ารอยต่อต้อนรับ ส.ส.กลุ่มพรรคเล็กร่วมรัฐบาล เพื่อพูดคุยหารือกัน

 

ในยามที่เสียงรัฐบาล “ปริ่มน้ำ” ทิ้งห่างเสียงของ “ขั้วฝ่ายค้าน” ไม่มาก จะเป็นบทพิสูจน์ “บารมี” ของทั้ง “บิ๊กป้อม” ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล และ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำรัฐบาล ว่าจะ “เอาอยู่” หรือไม่

 

เพราะขืนหากเอาไม่อยู่ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ก็จะจบแห่ทันที...