ประกันรายได้เกษตรกร ก้าวไม่พ้นวิถี“แจกเงิน”

26 ต.ค. 2564 | 11:08 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สร้างโอกาสธุรกิจ ด้วยฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3726 ระหว่างวันที่ 28-30 ต.ค.2564 โดย...กาแฟขม


*** สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยอดผู้ติดเชื้อรายวันล่าสุดลดลงต่ำกว่าหมื่นรายต่อเนื่องหลายวัน ไม่นับรวมการตรวจด้วย ATK และยอดผู้เสียชีวิตก็ลดลงเช่นกัน นำไปสู่การเปิดประเทศ การเตรียมการรับวันที่ 1 พ.ย.2564 เปิดประเทศ เปิดทางสายการบินต่างชาติขนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ ประเมินกันว่าช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศ 1 ล้านคน ก็ทำให้ธุรกิจบริการตลอดสาย ปลุกให้ฟื้นตื่นขึ้น ทั้งท่าอากาศยาน สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร แท็กซี่ มอเตอร์ไซด์ รถเข็นเร่ขาย สตรีทฟู้ดส์ มีความหวังว่าจะกลับมา

*** เข้าสู่บรรยากาศหน้าหนาว ไม่ทันเปิดประเทศตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุงตู่ประกาศ พ.ย. แต่สถานที่ท่องเที่ยวรับลมหนาวคึกคักกันแล้ว ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา วันออกพรรษา วันปิยมหาราช ประชาชนไทยหลั่งไหลไปทำบุญ ไปท่องเที่ยวแน่นขนัด โดยเฉพาะภูสูง อย่างภูกระดึงที่ต้องจัดคิวมูมสวยถ่ายรูปพระอาทิตย์ลับริมผากันแล้ว ทางเขาค้อ เพชรบูรณ์ นักท่องเที่ยวก็แน่นขนัด ด้วยอัดอั้นกันมานาน ได้วัคซีนกันไปครบโด้สและบางพื้นที่ก็เข็ม 3 บูสเตอร์กันไปแล้ว ผู้คนจึงออกจากบ้านกันมากขึ้น แต่ก็ต้องระมัดระวัง ยอดติดเชื้อในต่างจังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยวเริ่มถีบตัวสูงขึ้นอีกครั้ง อย่างกรณีเชียงใหม่ ก็ยอดผู้ติดเชื้อกลับมา ฉนั้นการ์ดต้องไม่ตก ท่องไว้ๆ แล้วยึดปฏิบัติ  


*** คลอดแล้วประกันรายได้เกษตรกร ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด นี่ก็ปีที่ 3 แล้ว รัฐบาลจัดวงเงินมา ข้าว 5 ชนิด 1.8 หมื่นล้านบาท มันสำปะหลัง 7,100 ล้านบาทและข้าวโพด 19,000 ล้านบาท รวมประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท คลี่ดูในนั้นยังมีมาตรการช่วยค่าเก็บสต็อกข้าวในยุ้งฉางอีกตันละ 1,500 บาท มีช่วยเหลือดอกเบี้ย 3 % ให้โรงสีเก็บสต็อกข้าวอีก ก็เป็นโครงการประชานิยม ประยุทธ์นิยม จุรินทร์นิยม อุดหนุนราคาโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวสินค้า นัยว่าไม่แทรกแซงกลไกตลาด แต่ถมกันเช่นนี้ทุกปีไหวหรือ ไม่ต้องเอาไปเทียบเคียงกับโครงการจำนำข้าว ในทำนองจำนำจ่ายมากกว่าเยอะแยะ เมื่อเห็นว่ามันไม่ดีแล้วจะทำไปทำไม ไม่คิดวิธีการใหม่ๆ ในการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรบ้างหรือ หรือขบปัญหาไม่แตก เลยต้องใช้วิธีการไล่แจก เที่ยวนี้เงินงบประมาณจัดหาไม่พอ เศรษฐกิจติดหล่ม ฐานะการคลังย่ำแย่ ต้องกู้เงินมาใช้กันแล้ว 
 

*** นักการเมือง ผู้กำหนดนโยบาย ควรมองทั้งชาติ มองทั้งประเทศเป็นด้านหลัก จะขับเคลื่อน จะนำพาประเทศไปอย่างไร แก้ปัญหาเกษตรกรอย่างไร หรือคิดอะไรไม่ออกแล้วควักเงินมาไล่แจก มันแก้ปัญหาได้ถาวรกระนั้นหรือ ไล่โจทย์ดูจะแลเห็น ผลผลิตล้นเกินความต้องการตลาด ตลาดไม่รับตอบสนองราคาร่วง ต้นทุนผลผลิตสูง มองทั้งวงจรแล้วไล่แก้ให้ครบ ติดตรงไหน 7 ปีก็แล้ว 3 ปีก็แล้ว ก็ยังคงเดินหน้าแจกกันอยู่ ข้อมูลทั้งหมดมีหรือไม่ ต้นทุนการผลิตทั้งหมดอยู่ตรงไหน ดิน น้ำ ปุ๋ย อย่างปุ๋ยใส่เกินความต้องการหรือไม่ ผสมสูตรใหม่แบบสั่งตัดตามความต้องการได้หรือไม่ อันนี้ก็ลดต้นทุน ตลาดต้องการช่วงไหน พื้นที่ไหน ราคาเป็นอย่างไร ข้อมูลพวกนี้ใช้เทคโนโลยี AI รวบรวมมาวิเคราะห์ให้เห็นได้หรือไม่ แล้วก็ให้นักรบแนวหน้าที่ส่งไปประจำต่างประเทศ ทีมไทยแลนด์ทั้งทีมลงไปคลุกลงไปลุย ขายแบบถึงลูกถึงคน ไม่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาไม่ได้ว่าแต่ ฯพณฯ และบรรดาที่ปรึกษาทั้งหลายได้คิดกันบ้างไหม หรือคิดได้อย่างเดียว แจกๆๆ แล้วอนาคตระยะยาวประเทศนี้จะเป็นเช่นไร 


*** ไปที่แวดวงสังคมเศรษฐกิจ ธุรกิจ น่าจับตาบทบาทใหม่ในเก้าอี้อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมในยุคของ วันชัย พนมชัย หลังจากลุยงานในบทบาทเลขาธิการสมอ.จนเข้าตาหลายคน ได้ขึ้นแท่นนั่งกรมใหญ่ มีผลงานปรากฏ ต้องติดตามต่อไปโยกมาได้ดิบได้ดีเก้าอี้ใหม่งานหนักขึ้นตามความสำคัญของกรมเล็กกรมใหญ่ ที่แน่ๆงานใหญ่รออยู่เพียบ ช่วงนี้หลายภาคส่วนห่วงใยเรื่องการกำจัดขยะติดเชื้อในยุคโควิดระบาด ฝากอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้มงวดแบบด่วนๆ 


*** แห่ขานรับนโยบายรัฐบาล สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นำทีมบรรดารองประธาน ส.อ.ท. เข้าพบ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อนำเสนอรูปแบบการจัดงาน FTI EXPO 2022 : Northern Chapter ขานรับนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศและสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล จัดงานภายใต้โครงการ Made In Thailand ประกอบด้วย งานแสดงสินค้า การประชุมสัมมนา และการเจรจาธุรกิจ จัดงานเป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2022 บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานานาชาติ เชียงใหม่ ครอบคลุม 11 คลัสเตอร์ธุรกิจ ผู้ประกอบการ มากกว่า 700 ราย จากทั่วประเทศ


*** ควันหลงจากเสียงนักธุรกิจ-ประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมบางพื้นที่ในจังหวัดสิงห์บุรี ฝากชื่นชม อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย “ชวน หลีกภัย” เจ้าของฉายามีดโกนอาบน้ำผึ้ง ปีนี้อายุ 83 ปี แรงยังไม่ตก ลงพื้นที่ลุยน้ำท่วม ดูความเดือดร้อน ช่วยเหลือชาวบ้านแจกถุงยังชีพผู้ประสบภัย-ให้กำลังใจประชาชน ชาวบ้านจังหวัดสิงห์บุรีฝากบอกดีใจ อดีตนายกฯยังคงบุคคลิกไม่ถือตัว เสมอต้นเสมอปลาย พร้อมกล่าวคนดีของประชาชน ความภูมิใจของชาวไทย