รายงานข่าวจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เบื้องต้นที่ประชุม คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ได้รับทราบความคืบหน้าการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตรวจสอบร่างสัญญญาร่วมลงทุน และอนุมัติส่งกลับมาที่ รฟม.แล้ว
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร รฟม. โดยนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.จะพิจารณานำเสนอร่างสัญญาดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาหรือไม่ เบื้องต้นหากกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบร่างสัญญา ก็จะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติและเริ่มขั้นตอนลงนามสัญญาร่วมทุนกับเอกชน
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าดำเนินงานได้ทันที หลังจากลงนามสัญญา และมั่นใจว่าจะเปิดให้บริการส่วนตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-สุวินทวงศ์) ได้ภายใน 3 ปีครึ่ง หรือภายในปี 2568 และส่วนตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์) ได้ภายใน 6 ปี หรือภายในปี 2571 ตามแผนงานของ รฟม. ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของ BEM ที่ทำงานทุกโครงการประสบความสำเร็จ เปิดบริการได้ตามสัญญาเป็นไปตามแผนหรือก่อนแผนเสมอ
สำหรับ BEM เป็นเอกชนที่ยื่นข้อเสนอประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ผ่านเกณฑ์และเสนอผลประโยชน์ให้แก่รัฐสุทธิ (NPV) -78,287.95 ล้านบาท โดยมาจากการการหักลบระหว่างส่วนที่เอกชนจะตอบแทนให้รัฐ กับเงินที่เอกชนขอให้รัฐช่วย ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด อีกทั้งข้อเสนอของ BEM ยังดำเนินการตามข้อกำหนดทางวิศวกรรม (specification) งานโยธาและระบบรถไฟฟ้า วิธีการและเทคนิคการก่อร้างโดยเฉพาะการก่อสร้างงานอุโมงค์และสถานีใต้ดิน ซึ่งเป็นงานก่อสร้างใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ต้องดูแลความปลอดภัยสูงสุด ระบบรถไฟฟ้าที่จัดซื้อมีประสิทธิภาพสูง อายุการใช้งานนาน มาให้บริการแก่ประชาชน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ประเมินวงเงินการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดว่าจะใช้เงินทุนราว 1.2 แสนล้านบาท โดยจะจัดหาเงินทุนจากเงินกู้สถาบัน หรือออกหุ้นกู้ ไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อเพิ่มทุน
ขณะที่การประเมินลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น บริษัทฯ ประเมินจากวงเงินลงทุนที่ใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จึงคาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 7 ปีถึงจุดคุ้มทุน (Break Even) ใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยการคืนทุนดังกล่าว โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะต้องมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 5 แสนคนต่อวัน
สำหรับโครงการดังกล่าวมีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานคร ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น