พาณิชย์กางแผนปี66รุกหนักจดสินค้าGIทั้งในและตปท.

18 ม.ค. 2566 | 03:29 น.

พาณิชย์กางแผนปี66รุกหนักจดสินค้าGIทั้งในและต่างประเทศ “สินิตย์”เผยปี65สร้างรายได้ให้ชุมชนต่อเนื่องสร้างมูลค่าการตลาดรวมกว่า 48,000 ล้านบาท

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  เป้าหมายการส่งเสริมสินค้า GI ไทยในปี 2566 กระทรวงพร้อมเดินหน้าผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ไทยอีก 20 สินค้า เร่งรัดคำขอขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 15 สินค้า รวมถึงจัดงานส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า GI ไทยตามแนวนโยบาย GI Plus

 

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

 ไม่ว่าจะเป็น เผยแพร่อัตลักษณ์สินค้า GI ผ่านเมนูอาหารไทย พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย ส่งเสริมแหล่งผลิตสินค้า GI ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ฯลฯ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างการรับรู้ทั้งในและต่างประเทศ ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการดึงทรัพยากรที่มีศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์มาใช้ในการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน

พาณิชย์กางแผนปี66รุกหนักจดสินค้าGIทั้งในและตปท.

ส่วนปี 2565 ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ไทยทะลุเป้า เพิ่มอีก 25 สินค้า พร้อมส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า ขยายช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทางการค้า สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้เข้มแข็ง

 

พาณิชย์กางแผนปี66รุกหนักจดสินค้าGIทั้งในและตปท.

 

 โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาได้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยจำนวน 25 สินค้า อาทิ ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ข้าวหอมกระดังงานราธิวาส ไชโป้วโพธาราม พุทรานมบ้านโพน และผ้าไหมปักธงชัย เป็นต้น ปัจจุบันมีสินค้าท้องถิ่นไทยที่ขึ้นทะเบียน GI ทั้งสิ้น 177 สินค้า สร้างมูลค่าการตลาดกว่า 48,000 ล้านบาท

 

พาณิชย์กางแผนปี66รุกหนักจดสินค้าGIทั้งในและตปท.

 

รวมทั้งผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ ได้แก่ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน ในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ยังได้จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI พร้อมพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้า GI สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า GI ตอบสนองความต้องการของตลาด ตลอดจนขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้า GI ได้อย่างกว้างขวาง