ราคาน้ำมัน WTI พุ่ง 2.1% ปิดเหนือ 88 ดอลล์ รับความหวังจีนเปิดประเทศ

01 พ.ย. 2565 | 23:43 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (1 พ.ย.) ขานรับความหวังที่ว่าจีนอาจจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 88.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 94.65 ดอลลาร์/บาร์เรล


         

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากนายหาว ฮง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า "นายหวัง หูหนิง หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) กำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566"
         

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% สู่ระดับ 111.4800 เมื่อคืนนี้ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ


ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์และความหวังเกี่ยวกับการเปิดประเทศของจีนได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานผลสำรวจของมาร์กิตและไฉซินซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 49.2 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.1 ในเดือนก.ย. แต่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 3 อันเนื่องมาจากผลกระทบของการที่จีนใช้ล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
         

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล