ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดัน "AWC" เดินแผนลงทุน 1 แสนล้าน ใน 5 ปีนี้
ทายาทเจ้าสัวเจริญ ดัน "AWC" เดินแผนลงทุน 1 แสนล้านบาท ใน 5 ปีนี้ รุกพัฒนาต่อเนื่อง 15 โครงการมูลค่ารวม 6 หมื่นล้าน ส่วนที่เหลืออีก 4 หมื่นล้าน มองโอกาสเข้าซื้อกิจการโรงแรมเพิ่มเติม จากกว่า 200 โรงแรมที่เสนอขายเข้ามา พร้อมรุกพัฒนาโครงการสู่ความยั่งยืน
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) กล่าวว่า AWC ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 2565-2569) โดยได้วางงบลงทุนไว้ที่ 100,000 ล้านบาท
โดยมีโครงการที่อยู่ในการพัฒนาต่อเนื่อง 15 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 60,000 ล้านบาท อาทิ อควาทีค เดอะบีชฟรอนท์ พัทยา ,เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยาย ,บันยันทรี จอมเทียน, พัทยา , พัทยา แมริออท รีสอร์ท&สปา แอท จอมเทียน บีช ,เวิ้ง นครเกษม
ส่วนอีก 40,000 ล้านบาท จะมองโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งที่ผ่านมามีโรงแรมทยอยเสนอขายเข้ามากว่า 200 แห่ง แต่การจะซื้อหรือไม่ ต้องวิเคราะห์โอกาสการลงทุนที่เกิดขึ้นด้วย
รวมถึงการลงทุนโครงการใหม่ๆของ AWC ก็เน้นการพัฒนาสู่ความยั่งยืนพร้อมกับการบริหารต้นทุนและกระแสเงินสดจากการที่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมในเครือ AWC ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือนพ.ย. ที่ประเทศไทยจัดงานเอเปคส่งผลให้อัตราการเข้าพักเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ถือว่าเป็นช่วงพีคสุด อัตราการเข้าพักปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ84%
เนื่องจากมีงานไมซ์เข้ามากระตุ้นให้นักเดินทางจากทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทย หลังจากในช่วงที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักค่อยๆขยับขึ้น จาก30-40% มา50% ปัจจุบันอยู่ที่ 60% ทำให้ยอดจองห้องพักสูงกว่าปี2562 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นทำให้ยอดการจองยาวไปจนถึงกลางปี2566
ในส่วนของพื้นที่เช่า อาคารสำนักงานทั้ง 4 แห่ง ยังคงมีอัตราการเช่าที่สูงต่อเนื่องกว่า 90% และในส่วนของศูนย์การค้ากลับมามีอัตราการเช่าที่ดีขึ้นหลังการเปิดเมือง ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการจับจ่ายใช้สอย ทานอาหาร และพักผ่อนในศูนย์การค้ามากขึ้น
ส่งผลให้เริ่มมีผู้ประกอบการทยอยกลับเข้ามาเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้ามากขึ้น แต่อาจจะบังต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าพื้นที่เช่าศูนย์การค้าจะฟื้นตัวกลับมาเต็มที่ โดยเฉพาะ เอเชียทีคที่ยังคงต้องรอนักท่องเที่ยวจีนกลับมา
อย่างไรก็ตามในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระทบต่อต้นทุนด้านการก่อสร้างโครงการต่างๆของบริษัทที่กำลังจะเริ่มก่อสร้าง
ทำให้เงินลงทุนในบางโครงการที่เตรียมเริ่มพัฒนาปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทตัดสินใจนำบางโครงการที่เตรียมพัฒนามาประเมินและพิจารณาต้นทุนในการก่อสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และความเหมาะสมของฐานะการเงินของบริษัท
ทั้งบริษัทยังได้ตั้งเป้าหมายจะเป็น Carbon Neutral คือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2572 โดยในช่วง 5 ปีจากนี้ ตั้งแต่ปี 2565-2569 บริษัทจะเน้นลงทุนพัฒนาโครงการตามกลยุทธ์ Carbon Neutral ที่คำนึงถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว และได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE
อาทิ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล, โรงแรม อินน์ไซด์ กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นโครงการที่ก่อสร้างโดยคำนึงถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว และได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการภายในต้นปี 2566
โครงการอควาทีค เดอะบีช ฟรอนท์ พัทยา ซึ่งตั้งเป้าให้ได้รับการรับรอง LEED ภายในปี 2569
โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยายที่ตั้งเป้าให้ได้รับการรับรอง LEED & WELL ภายในปี 2572
ปัจจุบัน AWC มีธุรกิจโรงแรมและบริการ 19 แห่ง กลุ่มศูนย์การค้า 9 แห่ง อาคารสำนักงาน 4 แห่ง กลุ่มธุรกิจค้าส่ง 4 แห่ง รวม 34 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาใหม่อีก 15 แห่ง