"โออาร์"ปิดดีลลงทุนใน"ดุสิต ฟู้ดส์"หลังทุ่ม 300 ล้าน ถือหุ้น 25%

22 ส.ค. 2565 | 02:52 น.

OR ผนึก DUSIT เข้าลงทุน "ดุสิต ฟู้ดส์" สัดส่วน 25: 75 ตามลำดับ โดย OR ส่งบริษัทย่อย" Modulus" ลงทุน 299.6 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความหลากหลายธุรกิจอาหาร ด้าน DUSIT ชี้เพื่อสร้างแพลตฟอร์มด้านอาหาร ช่วยเหลือคนตัวเล็กในชุมชนและท้องถิ่นมีโอกาสเติบโตทั้งในและตปท.

บริษัท.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการจัดการ OR  ครั้งที่ 30/2565 วันที่ 8 สิงหาคม 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) บริษัทย่อยของ OR เข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นสามัญเดิม และหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด (DF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)  หรือ DUSIT ในวงเงิน ไม่เกิน 299.6 ล้านบาท

 

โดยภายหลังการเข้าลงทุนดังกล่าวจะทำให้ Modulus มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 และ กลุ่ม DUSIT มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 75 ของหุ้นสามัญทั้งหมดใน DF ทั้งนี้ DF เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเน้นธุรกิจอาหารที่มีการเติบโตสูงและเชื่อมโยงกับธุรกิจอาหารของกลุ่มบริษัทในเครือทั้งธุรกิจโรงแรม และสถาบนัการศึกษา
          

การลงทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไลฟ์ สไตล์ของ OR โดยเพิ่มความหลากหลายของการดำเนินธุรกิจอาหาร รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ Modulus ได้ลงนามในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น และสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
          

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR เปิดเผยว่า การร่วมกับกลุ่ม DUSIT ลงทุนใน DF ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารที่หลากหลายและมีศักยภาพในการเติบโตในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ OR โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ทั้งที่เป็นธุรกิจที่ OR ดำเนินการเองและพันธมิตรที่ OR เข้าไปร่วมลงทุนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สอดคล้องกับหนึ่งในพันธกิจของ OR ที่มุ่งสร้างทางเลือกเพื่อเติมเต็มความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร

 

อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับผู้ประกอบการแบรนด์ไทยเพื่อการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเน้นเติบโตในแบบ Outside-In โดยแสวงหาโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร

 

นอกจากนี้ กลุ่ม DUSIT ยังมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายในด้านการเติบโตร่วมกัน (Economic Prosperity) ของ OR ที่มุ่งสร้างการเติบโต สร้างอาชีพ และกระจายความมั่งคั่งสู่คู่ค้า และผู้ประกอบการขนาดย่อม (MSMEs) ผ่านการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรได้เป็นอย่างดี

 

โดยเป้าหมายการขยายธุรกิจอาหารของ DF คือ การนำความเป็นไทย ไปสู่สากล โดยที่ให้ความสำคัญทั้งในด้านต้นน้ำและปลายน้ำของห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจอาหาร ซึ่งรวมไปถึงชุมชนท้องถิ่น OR ยังพร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด เข้ามาสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจของ OR และมุ่งพลิกโฉมตัวเองให้เป็น Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การเติบโตทางธุรกิจเป็นการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive ที่ผนวกนำโมเดลทางธุรกิจและนวัตกรรมเข้ามาใช้แก้ปัญหาของผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม นางสาวจิราพร กล่าวเสริม

ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DUSIT เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการสร้างโอกาสเติบโตร่วมกัน โดยอาศัยจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่าย โดย OR มีความเชี่ยวชาญในส่วนของธุรกิจค้าปลีก และเป็นเจ้าของเครือข่าย Retail Platform อันแข็งแกร่งที่สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนและกระจายอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย ผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น (PTT Station) เกือบ 2,500 แห่ง และร้านคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) อีกเกือบ 4,000 สาขา

 

ในขณะที่กลุ่มดุสิตธานี เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความชำนาญในด้านธุรกิจการให้บริการชั้นนำของประเทศ และที่ผ่านมาได้เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจอาหารที่เชื่อมโยงกับธุรกิจหลัก มีแนวโน้มการเติบโตสูง และครอบคลุมทุกห่วงโซ่อุปทาน  ซึ่งความร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของธุรกิจอาหารภายใต้การบริหารของกลุ่มดุสิตธานีได้อย่างแน่นอน
         

"วิสัยทัศน์ของ DF คือ การนำเอเชียไปให้โลกรู้จัก (Bring Asia to the World) โดยที่ผ่านมา เราเลือกลงทุนในธุรกิจอาหารที่เน้นกระบวนการธรรมชาติ ออแกนิก มีสุขภาพที่ดี และช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการลงทุนครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนั้น การที่มี OR มาถือหุ้นใน DF จะเป็นการช่วยต่อยอดขีดความสามารถในการเติบโตในเชิงกลยุทธ์ และการขยายธุรกิจผ่านช่องทางเครือข่ายค้าปลีกที่แข็งแกร่งของ OR  
         

ขณะเดียวกัน DUSIT และ OR ต่างก็เป็นแบรนด์ไทยที่มีความตั้งใจและมีเป้าหมายร่วมกันในการจะช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตของธุรกิจอาหารของไทยให้มีโอกาสเติบโตทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้และเป็น Growth Engine  ตัวใหม่ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือครั้งนี้มีพลังมากยิ่งขึ้น" นางศุภจี กล่าว
         

ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนหลักๆ ของ DF ประกอบด้วย บริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการกับโรงเรียนนานาชาติที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 70% ในประเทศไทย  บริษัท เดอะ เคเทอเรอร์ส จอยท์ สต็อก จำกัด (The Caterers Joint Stock) หรือ "เดอะ เคเทอเรอร์ส" (The Caterers) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดเลี้ยงสำหรับโรงเรียน และงานเลี้ยงรับรองนอกสถานที่ในประเทศเวียดนาม  ร้านอาหาร  KAUAI (คาวาอิ) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารสุขภาพยอดนิยมจากประเทศแอฟริกาใต้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยและมีแผนจะขยายตลาดเพิ่มในเอเชีย
         

รวมถึง บริษัท บองชู เบเกอรี่ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ขนมเบเกอรี่ "บองชู" (BONJOUR) และโรงงานผลิตเบเกอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ดีและทันสมัยที่สุดที่นำเข้าจากประเทศชั้นนำในยุโรป ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยปัจจุบัน ร้านแฟรนไชส์ขนมเบเกอรี่บองชู มีสาขาในประเทศไทยกว่า 50 แห่ง รวมถึงในประเทศจีนอีก 1 แห่ง
         

สำหรับความร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้ กลุ่ม DUSIT วางเป้าหมายที่จะทำงานร่วมกับ OR ในการสร้างแพลตฟอร์มด้านอาหาร เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กในชุมชนและท้องถิ่นให้มีโอกาสเติบโตทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงขยายโอกาสในการเติบโตของพอร์ตด้วยการทำงานร่วมกับ OR และบริษัทอื่นๆ ที่ OR ได้ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่อเมซอน (Café Amazon) รวมถึงร้านอาหารเพื่อสุขภาพโอ้กะจู๋  ซึ่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไปนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้และความสามารถในการรักษากำไรที่ดีขึ้นให้กับกลุ่ม DUSIT ในอนาคต