“แรมโบ้”คนอีสานสู้ต่อไป

05 เม.ย. 2565 | 11:09 น.

คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน โดย...ประพันธุ์ คูณมี

ผมรู้จักและเคยได้ยินชื่อ "แรมโบ้" ครั้งแรก ก็มาจากการได้ชมภาพยนต์แนวแอ็กชั่น ของฮอลลีวูด ซึ่งในภาพยนต์เรื่องนี้ สวมบทบาทโดยซิลเวสเตอร์ สตอลโลน พระเอกร่างใหญ่ หล่อล่ำบึ๊ก แสดงเป็น จอห์น แรมโบ้ ทหารนักรบเดนตายที่ต้องต่อสู้กับศัตรู โดยรุกรบเข้าไปในแนวหลังของข้าศึก และสามารถทำลายล้างคู่ศัตรูจนพินาศย่อยยับอย่างกล้าหาญ ภาพยนต์ชุดนี้ถูกสร้างมาทั้งหมด 1-5 ภาค ตั้งแต่ปี 2525-2562 บทบาทของแรมโบ้ในภาพยนต์ จึงเป็นบทบาทของนักรบที่บู๊ เสี่ยงชีวิตไม่กลัวตาย และลุยกับข้าศึก อย่างกล้าหาญ จนที่สุดก็สามารถรบชนะในทุกสมรภูมิมาได้อย่างโชกโชน


ในสมรภูมิทางการเมืองของไทย ก็มีลูกผู้ชายที่ชื่อ "แรมโบ้" เกิดขึ้นมาในวงการการเมืองด้วยคน เป็นหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่เป็นนักการเมืองและได้รับฉายานี้ เขาคือ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือชื่อเดิมก็คือ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งทางการเมืองเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยผลงานลุยจับผู้ค้าสลากที่ขายเกินราคาในขณะนี้นั่นเอง

ย้อนอดีต ตรวจสอบประวัติกลับไป ก่อนที่จะมาเป็นแรมโบ้ในวันนี้ เขาเกิดที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ลูกอีสานโดยกำเนิด แต่ไปจบ มศ.5 ที่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี เรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และหลักสูตรอื่นๆ อีกมากมาย ต่อมาจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร สาขายุทธศาสตร์การพัฒนา โดยสมัยที่เรียนรามคำแหง แรมโบ้เป็นนักกิจกรรมตัวยงคนหนึ่งของมหาวิทยาลัย ชื่นชอบกิจกรรมทางการเมืองเป็นชีวิตจิตใจ และด้วยเหตุนี้แหละจึงชักนำชีวิตเขาให้เข้ามาสู่วงการการเมืองในระดับชาติในเวลาต่อมา


แรมโบ้ หรือ สุภรณ์ หรือ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ แล้วแต่ใครถนัดจะเรียกชื่ออะไร มาถึงวันนี้เขามิใช่เป็นละอ่อนทางการเมือง หากใครรู้จักและติดตามประวัติเขา ก็จะทราบดีว่าเขาผ่านสนามการเมืองมาโชกโชนและยาวนาน โดยเขาเป็นผู้ช่วยผู้ดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา อดีตหัวหน้าพรรคกิจสังคม รองนายกฯ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งทั้งสองท่านนี้ก็คือ เพื่อนและผู้ร่วมงานการเมืองที่สนิทและไว้วางใจกันมากที่สุด และต่อมาทั้งสองท่านก็ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี ในสมัยรัชกาลที่ 9 แรมโบ้จึงเป็นบุคคลที่เคยทำงานอยู่ใก้ลชิดกับบุคคลสำคัญ ที่เป็นคนดีของแผ่นดินมาก่อน จึงน่าจะใฝ่ดีมากกว่าฝักใฝ่ในทางการเมืองที่ไม่ดี ต่อมาจึงได้ตีตนออกห่างจากค่ายของทักษิณ มายืน ณ. การเมืองในปัจจุบัน

แรมโบ้อีสาน เคยผ่านชีวิตการเมืองมามากมาย ทำงานกับนักการเมืองมาแล้วหลายคน เป็นคนที่ช่วยทักษิณให้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ครั้งแรกอีกด้วย ส่วนตัวเขาเองผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ทั้งพรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรม พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งในสังกัดพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2544 และเมื่อได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เข้าสภาครั้งแรก แรมโบ้สวมบทตอบโต้ทางการเมืองกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างดุเด็ด จึงทำให้ได้รับฉายาว่า "แรมโบ้อีสาน" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา 


แต่การมีชีวิตทางการเมืองใต้ร่มเงาทักษิณ และพรรคไทยรักไทย จนกระทั่งผันตัวเองไปอยู่ร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง กลับมิได้ทำให้ชีวิตทางการเมืองของแรมโบ้ ประสบความสำเร็จหรือก้าวหน้าแต่อย่างใด นำพาชีวิตเขาแทบเอาตัวไม่รอดจากคุกตะราง กระทั่งต้องหนีตายไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเหตุการณ์แดงล้มเจ้า เผาบ้านเผาเมือง จนกระทั่งเมื่อ คสช.ยึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ แรมโบ้จึงประกาศจุดยืนทางการเมืองตนเองใหม่ เลือกข้างไม่ยอมเป็นมือเป็นเท้าให้ทักษิณอีกต่อไป เหมือนว่าดวงตาเห็นธรรม แรมโบ้ประกาศตนไม่ยอมรับใช้คนโกง ขอทำเพื่อแผ่นดิน ประเทศชาติ ปกป้องสถาบัน ยืนเคียงข้างลุงตู่ อย่างเด็ดเดี่ยว ขอสร้างความสงบสุขให้กับบ้านเมือง


การประกาศจุดยืนไม่เอาระบอบทักษิณ พร้อมเคียงข้างลุงตู่ สู้เพื่อความดี ความถูกต้อง ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มุ่งสร้างความสามัคคี คืนความสงบสุขให้กับบ้านเมือง และพร้อมลุยกับคนชั่ว นักการเมืองโกงของแรมโบ้ ทำให้เขาได้รับการยอมรับจากประชาชนและสื่อมวลชน ในบทบาทผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และในบทบาทที่ได้รับไฟเขียวจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มี นายชัช ชลวร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานที่ปรึกษา ตามคำสั่งของ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ จึงเป็นบทบาทที่เข้าตาประชาชน และทำให้แรมโบ้ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างยิ่ง ว่าทำงานได้ถูกต้องตรงเป้า ดีแล้วเดินหน้าต่อไปแรมโบ้


การเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล และตามคำประกาศของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้ขายในราคาที่กองสลากกำหนด จึงเป็นเดิมพันสำคัญที่รัฐบาลต้องทำให้ได้ตามประกาศ ก่อนที่จะเสียรังวัดกับประชาชน การดำเนินการกับผู้ค้าสลากกินแบ่ง และบริษัทผู้ค้าสลากออนไลน์ รายต่างๆ ตามที่เป็นข่าว จึงเท่ากับเป็นการทุบหม้อข้าวบรรดามาเฟียกองสลาก พวกหากินด้วยธุรกิจสีเทาที่หาประโยชน์จากประชาชนผู้ซื้อสลากกินแบ่ง หรือพวกที่ทำตนเป็นกองสลากเสียเอง เป็นเจ้ามือพนันเสียเอง บทบาทของแรมโบ้ จึงแหลมคมและเป็นเป้าของการพยายามตอบโต้ทำลาย จากผู้เสียประโยชน์ 


รวมถึงพวกที่เกลียดลุงตู่ ต่างคอยจ้องหาจังหวะที่จะตอบโต้ทำลาย เล่นงานลุงตู่ไม่ได้ก็ต้องหาทางตีกระทบชิ่งว่างั้นเถอะ และแรมโบ้จึงเป็นเป้าหมายหนึ่งของกลุ่มแค้นทางการเมืองและพวกเสียผลประโยชน์อย่างเลี่ยงมิได้ เรื่องคลิปที่กำลังพยายามทำให้ฉาว ขยายข่าวให้ดังเพื่อกลบข่าวลุยผู้ค้าสลาก หรือเพื่อดิสเครดิตแรมโบ้จึงเกิดขึ้นด้วยเหตุฉะนี้


เรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่าง แรมโบ้ กับ นางจุรีพร สินธุไพร เป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาผิดใครในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะต้องมีกระบวนการสอบสวนและรวบรวมข้อเท็จจริงอีกมากและหลายขั้นตอน ที่สำคัญคือประจักษ์พยานและข้อเท็จจริงที่จะรับฟังให้ได้ว่า ได้มีการใช้เงินโดยผิดกฎหมายในการเลือกตั้งจริงหรือไม่ สุดท้ายต้องไปจบที่ศาลเป็นผู้พิจารณาพิพากษา


แต่การดำเนินการกับผู้ค้าสลากที่ขายเกินราคาและเอาเปรียบประชาชนหรือ กระทำการโดยผิดต่อกฎหมาย ที่คณะทำงานมีหน้าที่ต้องตรวจสอบและดำเนิน ต้องเดินหน้าและปฏิบัติการต่อไป หากคณะทำงานชะงักหรือผ่อนกำลังในการดำเนินการเมื่อใด ย่อมเข้าทางพวกคนผิด กลุ่มมาเฟียผู้เสียประโยชน์ หรือพวกแค้นทางการเมือง จึงไม่มีเหตุผลอันใดที่คณะทำงานที่แรมโบ้เป็นประธานต้องสะดุด มีแต่เดินหน้า จัดการให้ถึงที่สุด ดำเนินการกับทุกคนที่กระทำผิดกฎมายแบบไม่ไว้หน้าเท่านั้น จึงจะพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์รัฐ ประโยชน์ประชาชน จึงจะพิสูจน์แรมโบ้ของแท้ มีแต่เดินหน้า ถอยหลังเมื่อไหร่คือล้ม 


เมื่อเดินหน้ามาถูกทางและดีแล้ว เดินหน้าสู้ต่อไป "แรมโบ้อีสาน" ไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์พรหมคนใด ความดี ความกล้าหาญ ทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น ที่จะคุ้มครองคุณ