5 โรคตา ที่ต้องโฟกัสในผู้สูงวัย

08 ก.ย. 2565 | 10:35 น.

Tricks for Life

ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งประชากรกลุ่มนี้ 70% ที่สายตาไม่ดี การมองเห็นไม่ชัดเจน เกิดภาวะสายตาเลือนรางหรืออาจตาบอดถ้าไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรก เนื่องจากถ้าตรวจวินิจฉัยได้รวดเร็ว ผลการรักษามักได้ผลดี

 

การตรวจคัดกรองดวงตาไม่เพียงช่วยให้ค้นพบความผิดปกติของดวงตาในระยะเริ่มแรก แต่ยังช่วยให้ค้นพบโรคเกี่ยวกับดวงตาในขณะที่ยังไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะในผู้สูงวัยที่ต้องพบกับความเสื่อม การตรวจคัดกรองดวงตาจะช่วยให้ทำการรักษาได้ทันท่วงทีก่อนที่อาการจะรุนแรงและอาจสูญเสียดวงตาไปในที่สุด

 

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ ลำยองเสถียร นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า โรคตาที่พบมากในผู้สูงอายุที่พบบ่อยที่สุดและเป็นเมื่ออายุมากขึ้น คือ               

 

1.ต้อกระจก เกิดจากความขุ่นมัวของเลนส์แก้วตาธรรมชาติ จากสาเหตุส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงตามอายุที่มากขึ้น ทำให้แสงผ่านเข้าไปที่จอตาประสาทด้านในลูกตาได้น้อยลง ผู้ป่วยจะมีอาการตามัวและเป็นมากขึ้นเรื่อยๆถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาจตาบอดได้ วิธีการรักษาคือการผ่าตัดเอาเลนส์ตาที่ขุ่นออก และใส่เลนส์แก้วตาเทียมแทนที่

 

2. ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา สาเหตุจากโรคเบาหวานทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดฝอยส่งผลให้ขาดเลือดและออกซิเจนที่ไปเลี้ยงจอตา และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่อย่างผิดปกติที่จอประสาทตา ซึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นสภาพปกติได้ การรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบันมุ่งหวังให้โรคไม่ลุกลามไปจากระยะที่เป็นอยู่ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติรวมทั้งดูแลโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต ไขมันในเลือดสูงอย่างเหมาะสมและผู้ป่วยเบาหวานทุกคนต้องตรวจตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง

           

3. ต้อหิน เป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรโดยที่ผู้ป่วยไม่ทันรู้ตัวเกิดจากความดันในลูกตาที่สูงขึ้นจนมีการทำลายประสาทตา ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวที่เป็นต้อหิน อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดที่มีการใช้ยาสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่องเป็นต้น โรคนี้มักไม่มีอาการ จะเริ่มสูญเสียลานสายตา คือการมองเห็นจำกัดวงแคบลงเรื่อยๆและสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

5 โรคตา ที่ต้องโฟกัสในผู้สูงวัย

อาจมีต้อหินบางประเภท เช่น ต้อหินมุมปิดเฉียบพลันที่มีอาการปวดมาก ตามัวลงและตาแดง ถือเป็นภาวะเร่งด่วนมากต้องมาพบจักษุแพทย์ทันที สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยต้องมาตรวจติดตามอาการและปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด

           

4. จุดภาพชัดจอตาเสื่อม เกิดจากภาวะเสื่อมของจุดภาพชัดที่อยู่ส่วนกลางของจอตา ทำให้การมองเห็นส่วนกลางของภาพมัวลง โดยที่บริเวณรอบข้างยังเห็นได้ปกติ ปัจจัยเสี่ยง คือ ภาวะสูงวัย แสงรังสี UV สูบบุหรี่ และความดันโลหิตสูง ในระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการ เมื่อจอตาเสื่อมมากขึ้นจะมีอาการตามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นจุดดำตรงกลางภาพ หรือสูญเสียการมองเห็นตรงกลางภาพโดยไม่มีอาการปวด

           

5. ภาวะสายตายาวในผู้สูงอายุ ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน ผู้ป่วยจะอ่าน หรือเขียนหนังสือ ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในระยะใกล้ไม่ชัดเจน แต่มองไกลได้ปกติ บางคนมีอาการตาพร่า หรือปวดตา มักเริ่มมีอาการเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากความสามารถและระยะในการเพ่งปรับสายตาลดลง เลนส์แก้วตาแข็งตัวขึ้นและการทำงานของกล้ามเนื้อตาลดลง สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้แว่นสายตา แต่ควรมาตรวจกับจักษุแพทย์ให้แน่ใจว่า ไม่มีความผิดปกติของโรคตาอื่นๆ ร่วมด้วย

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,815 วันที่ 4 - 7 กันยายน พ.ศ. 2565