นายกฯ ทวิภาคี “คิชิดะ” เตรียมเจรจาเปิดฟรีวีซ่านักธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น

16 พ.ย. 2566 | 03:55 น.

นายกฯ หารือทวิภาคีกับ "ฟูมิโอะ คิชิดะ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตกลงที่จะร่วมมือกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ เผยเตรียมคุยเปิดฟรีวีซ่านักธุรกิจทั้งสองฝ่ายในช่วงการประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียว 16-18 ธ.ค.นี้

 

15 พ.ย. 2566 เวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนคร ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ช้ากว่ากรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ได้ พบหารือทวิภาคี กับ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นอกรอบ การประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ นครซานฟรานซิสโก ของสหรัฐอเมริกา โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะร่วมมือกันให้มากขึ้นก่อนที่การประชุมสุดยอดนัดพิเศษระหว่างญี่ปุ่นและกลุ่มอาเซียนจะมีขึ้นในเดือนหน้าที่กรุงโตเกียว (16-18 ธ.ค.) โดยนายคิชิดะได้แสดงความคาดหวังว่าญี่ปุ่นและไทยจะมีการประกาศความร่วมมือในรูปแบบใหม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ได้ พบหารือทวิภาคี กับ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

นายกฯ ยังกล่าวถึงการหารือทวิภาคีกับนายคิชิดะ นอกรอบการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปควานนี้ว่า ทั้งสองฝ่ายหารือเรื่องของความสัมพันธ์ที่มีมานาน 50 ปี และเรื่องการใช้รถยนต์สันดาป โดยตนเองให้ความมั่นใจกับทางญี่ปุ่นไปว่าจะไม่ทอดทิ้ง มีการพูดคุยกันว่าจะให้การประกอบรถยนต์สันดาปของญี่ปุ่น และกระบวนการจัดการผลิตอยู่ได้ท่ามกลางบริบทที่รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) มีความต้องการสูง

“ได้พูดในหลายเวทีว่า ประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศไทยสูงที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เราจึงต้องมาดูแลช่วยเหลือกัน และทางญี่ปุ่นยืนยันว่าธุรกิจยานยนต์เป็นธุรกิจสำคัญและจะพัฒนาต่อในประเทศไทย” นายกฯกล่าว และว่า

ในระหว่างวันที่ 16- 18 ธ.ค.นี้ ตนเองจะเดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งมีประเด็นพูดคุยหารือกันอีกหลายเรื่อง รวมทั้ง มาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักธุรกิจของทั้งสองประเทศ (ไทย-ญี่ปุ่น) ที่ทั้งสองฝ่ายมีการตกลงเห็นพ้องว่า ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า เพื่อให้นักธุรกิจสามารถติดต่อธุรกิจและไปมาหาสู่กันสะดวกมากขึ้น เป็นเรื่องที่ดีที่สองฝ่ายเห็นตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามเรื่องวีซ่านักธุรกิจ จะจำกัดจำนวนวันในการเข้ามาพำนักเพื่อประกอบธุรกิจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มี เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ต้องไปศึกษา โดยการทำธุรกิจต้องใช้เวลานานเล็กน้อย ส่วนรายละเอียดคาดว่าจะตกลงกันได้ในระหว่างการไปร่วมประชุมในเดือนธ.ค.

"ทางญี่ปุ่นยืนยันว่าธุรกิจยานยนต์เป็นธุรกิจสำคัญ และจะพัฒนาต่อในประเทศไทย”

ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะร่วมมือกันให้มากขึ้น ก่อนที่การประชุมสุดยอดนัดพิเศษระหว่างญี่ปุ่นและกลุ่มอาเซียนจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมที่กรุงโตเกียว โดยนายคิชิดะได้แสดงความคาดหวังว่าญี่ปุ่นและไทยจะมีการประกาศความร่วมมือในรูปแบบใหม่

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในระหว่างการพบปะทวิภาคีกับนายเศรษฐานั้น นายคิชิดะกล่าวว่า เขาต้องการร่วมมือกับนายเศรษฐาเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยระหว่างประเทศให้ยังคงเป็นไปอย่างเสรีและเปิดกว้างตามบทบัญญัติของกฎหมาย ขณะที่นายเศรษฐากล่าวว่า ประเทศไทยมีความยินดีที่จะกระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่า ผู้นำทั้งสองได้กล่าวในระหว่างการหารือกันว่า การที่บริษัทผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นหลายรายมีฐานการผลิตในประเทศไทยนั้น ทำให้อุตสาหกรรมพลังงานและรถยนต์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือกัน นอกจากนี้ นายคิชิดะยังได้เสนอให้มีการสร้างประชาคมที่มีการปล่อยมลภาวะเป็นศูนย์ (zero emission community) ในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นประชาคมที่ญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียนต่างก็มีเป้าหมายร่วมกันในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด

ทั้งนี้ ปี 2566 เป็นโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและ 10 ชาติสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยทั้งสองฝ่ายมีกำหนดจัดการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 3 วันที่กรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 16-18 ธ.ค.2566