“โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตผู้นำสหรัฐคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา ลุ้นโทษสูงสุด 136 ปี

05 เม.ย. 2566 | 14:19 น.

“โดนัลด์ ทรัมป์” กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ถูกฟ้องคดีอาญา ด้วยความผิด 34 กระทง และอาจถูกจำคุกสูงสุด 136 ปี นักวิเคราะห์เผย แม้ทรัมป์ผิดจริง ยังลงสมัครชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐได้

ช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์" เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ศาลอาญาแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ในคดีที่โยงข่าวอื้อฉาวของเขากับ “สตอร์มี แดเนียลส์”  ทำให้ทรัมป์กลายเป็น "อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก" ที่ถูกตั้งข้อหาคดีอาญา และอาจรับโทษ "จำคุกสูงสุด 136 ปี"

ทรัมป์ถูกคณะลูกขุนของศาลฯ สั่งฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาถูกตั้งข้อหาความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ 34 กระทงจากการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ เพื่อจ่ายเงินปิดปาก “สตอร์มี แดเนียลส์” ในช่วงที่ทรัมป์เพิ่งลงหาเสียงเลือกตั้งปี 2559  ไม่ให้เธอพูดถึงสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่เธอเคยมีกับทรัมป์ช่วง 10 ปีก่อนหน้านั้น 

โดนัล ทรัมป์ ในห้องพิจารณาคดีเมื่อวันอังคาร ภาพจาก ABC News

ย้อนไทม์ไลน์ปมฉาวสู่ “ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร”

หากเพียงแค่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แล้วจ่ายเงินสดปิดปากเรื่องก็คงจบ แต่กลับมีกระบวนการลึกลับซับซ้อน ที่เป็นช่องโหว่ที่ทำให้ทรัทป์ถูกดำเนินคดีใน“ข้อหาปลอมเเปลงเอกสาร” เพราะมีการออกแบบกระบวนการจ่ายเงินเพื่อบังหน้าเรื่องอื้อฉาวโดยเฉพาะ

ทรัมป์ได้เซ็นสัญญาข้อตกลงห้ามเปิดเผยข้อมูลกับแดเนียลส์  โดยให้ "นายไมเคิล โคเฮน" อดีตทนายความคู่ใจ จัดการเรื่องจ่ายเงินปิดปากแดเนียลส์ 130,000 ดอลลาร์ 

ทนายโคเฮน ใช้วิธีการเอาบ้านไปจำนองแล้วนำเงินที่ได้ไปจ่ายให้แดเนียลส์  ผ่านบริษัท Essentail Consultants LLC ที่เขาจัดตั้งขึ้นมาบังหน้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จากนั้น บริษัทในเครือทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ก็จ่ายเงินคืนให้ทนายโคเฮนเป็นงวด ๆ โดยลงบัญชีว่าเป็นค่าธรรมเนียมตามกฎหมายของบริษัท

สิ่งนี้เองทำให้ทรัมป์ถูกฟ้องใน "ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ" ซึ่งถือเป็น "ความผิดทางอาญา"

ชะตากรรมของอดีตทนายคู่ใจ นายโคเฮนนั้น เวลานี้เขากำลังรับโทษในเรือนจำรัฐนิวยอร์ก ตั้งแต่ปี 2562 หลังจากที่เขาสารภาพผิดในคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายทรัมป์ ทั้งการฉ้อโกงเงิน, การหลีกเลี่ยงภาษี และการให้การเท็จต่อสภาคองเกรส รวมถึงที่ทั้งการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายคู่ใจทรัมป์ ภาพจาก ABC News

ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันถูกใส่ร้ายจากฝั่งตรงข้าม

การเดินทางมาศาลครั้งนี้  ทรัมป์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขายอมรับว่าได้จ่ายเงินให้อดีตทนายโคเฮนจริง แต่ปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และโทษว่าการตั้งข้อหากับเขาครั้งนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง

หลังเสร็จสิ้นการรับทราบข้อกล่าวหา เขาได้เดินทางกลับรัฐฟลอริดาและแถลงข่าวช่วงค่ำวันเดียวกัน หรือประมาณ 7 โมงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย  โดยระบุว่า เขาเป็นเหยื่อของพวกพรรคเดโมแครตที่สมคบคิดกันหาทางทำลายโอกาสในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา และเขาถูกใส่ร้ายทางการเมืองมาตลอดหลายปีนี้  

ทรัมป์แฉ ลูกสาวอัยการที่ฟ้องตน "ทำงานให้พรรคเดโมแครต"

ทรัมป์ ปิดท้ายการแถลงข่าว ระบุถึง “อัลวิน แบรกก์” อัยการของศาลแขวงแมนฮัตตัน ผู้สืบสวนเรื่องทรัมป์มาตลอดหลายเดือน เขาบอกว่า

"อาชญากรตัวจริงก็คือท่านอัยการศาลแขวง เพราะเขาปูดข่าวแบบผิดกฎหมาย เขาควรถูกฟ้องหรืออย่างน้อยก็ควรลาออก" 

 จากนั้น ทรัมป์เริ่มลามไปถึงครอบครัวของอัยการแบรกก์ บอกว่าภรรยาของแบรกก์ มักโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์โจมตีทรัมป์  ในขณะที่ลูกสาวของเขาก็ทำงานให้กับ "นางคามาลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดีรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครตด้วย

แนวทางตัดสินคดี "ไม่มีผล"ต่อการลงสมัครชิงประธานาธิบดีสมัยหน้า

แม้ทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง แต่บรรดานักวิเคราะห์มองกันว่าโอกาสที่เขาจะถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกมีความเป็นไปได้น้อยมาก

และหากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ก็ไม่ได้มีผลใดๆต่อการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2024 นี้ เนื่องจากไม่มีข้อห้ามเรื่องนี้ระบุไว้ในกฎหมาย  และทรัมป์มีคุณสมบัติในการลงสมัครครบทั้ง 3 ข้อ คือ เป็นพลเมืองสหรัฐโดยกำเนิด, อายุ 35 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้พำนักในสหรัฐอย่างน้อย 14 ปี 

สำหรับการไต่สวนคดีของทรัมป์ครั้งต่อไป คือในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ต้องรอจับตาว่าเขาจะออกมาสู้คดีและแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไร ท่ามกลางกระแสที่มีผลต่อคะแนนเสียงของเขา ทั้งสนับสนุน ต่อต้าน และยังไม่ตัดสินใจใดๆ