ส่อง 20 เมืองใหญ่ "ศูนย์กลางการเงินโลก" ปี 2022

23 ก.ย. 2565 | 07:55 น.

“นิวยอร์ก” ยังคงครองแชมป์ศูนย์กลางการเงินโลกเป็นสมัยที่ 4 ตามมาด้วย “ลอนดอน” ส่วน "มอสโก" อันดับลดลงเหตุจากความขัดแย้งกับยูเครน ขณะที่โซนเอเชีย "สิงคโปร์" เฉิดฉายแซง "ฮ่องกง" ขึ้นเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชียและอันดับ 3 ของโลก

 

ดัชนีศูนย์กลางการเงินโลก (Global Financial Centres Index หรือ GFCI) ระบุวันนี้ (23 ก.ย.) ว่า มหานครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา ยังคงครองแชมป์เป็น "ศูนย์กลางการเงิน" ที่ได้รับความนิยมมากสุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีคะแนนทิ้งห่างเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการเงินแห่งอื่น ๆ

 

อันดับ 2 คือ กรุงลอนดอนของอังกฤษที่ยังรักษาอันดับรองแชมป์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของสิงคโปร์ ซึ่งขยับแซงหน้า “ฮ่องกง” ที่หล่นลงไปอยู่ในอันดับ 4 ส่วนอันดับ 5 คือ นครซานฟรานซิสโกของสหรัฐเช่นกัน

 

มหานครนิวยอร์ก ยังคงครองแชมป์เป็น "ศูนย์กลางการเงิน" ที่ได้รับความนิยมมากสุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

สำหรับอันดับที่ 6-10 ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ของจีน นครลอสแองเจลิสของสหรัฐ กรุงปักกิ่งของจีน เมืองเซินเจิ้นของจีน และกรุงปารีสของฝรั่งเศส 

 

ขณะที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นถูกเบียดหล่น 7 อันดับ ลงไปอยู่ในอันดับที่ 16 ด้านกรุงมอสโกของรัสเซียร่วงแรงคือหล่นลง 22 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 73 หลังถูกชาติตะวันตกตัดออกจากระบบการเงิน กรณีปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

ทั้งนี้ โดยสรุปคือ GFCI ได้จัดอันดับ 20 เมืองที่เป็นศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลกประจำปี 2022 เอาไว้ ดังนี้

  1. นิวยอร์ก - สหรัฐ
  2. ลอนดอน - อังกฤษ
  3. สิงคโปร์
  4. ฮ่องกง
  5. ซานฟรานซิสโก - สหรัฐ
  6. เซี่ยงไฮ้ - จีน
  7. ลอสแอนเจลิส - สหรัฐ
  8. ปักกิ่ง - จีน
  9. เซินเจิ้น - จีน
  10. ปารีส - ฝรั่งเศส
  11. โซล - เกาหลีใต้
  12. ชิคาโก - สหรัฐ
  13. ซิดนีย์ - ออสเตรเลีย
  14. บอสตัน - สหรัฐ
  15. วอชิงตัน ดีซี - สหรัฐ
  16. โตเกียว - ญี่ปุ่น
  17. ดูไบ - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  18. แฟรงก์เฟิร์ต - เยอรมนี
  19. อัมสเตอร์ดัม - เนเธอร์แลนด์
  20. เจนีวา - สวิตเซอร์แลนด์

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นิวยอร์กแซงหน้าลอนดอนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ 4 ปีติดต่อกันแล้ว ส่วนลอนดอนที่เคยเป็นแชมป์อันดับ1 นั้น แม้ว่าตอนนี้อันดับ 2 จะดูมั่นคง แต่หากต้องการกลับสู่อันดับ 1 เหมือนเมื่อครั้งที่อังกฤษยังไม่ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ลอนดอนก็ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้น 

สิงคโปร์ในปีนี้ เฉิดฉายแซงฮ่องกงขึ้นเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ

ตัดภาพมาโฟกัสที่เอเชีย สิงคโปร์ ในปีนี้ เฉิดฉายแซงฮ่องกงขึ้นเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ ขณะเดียวกันก็ผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 3 ของโลกแทนฮ่องกงด้วย โดยฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง 


ที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงเผชิญกับความยากลำบากในการพลิกฟื้นสถานะของการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก เนื่องจากฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางของจีนในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่สุด สวนทางกับประเทศอื่น ๆ ในโลกที่เริ่มเปิดพรมแดนกันไปก่อนแล้ว 

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากกว่า 4 ล้านคนในปี 2565 นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง

  • การประชุม Milken Institute Asia Summit
  • การประชุม Forbes Global CEO Conference
  • การแข่งขัน Singapore Grand Prix

ก็จะช่วยยกสถานะของสิงคโปร์ให้เป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางชั้นนำของโลกอีกด้วย


ส่วนเมืองเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเซินเจิ้นของจีนยังคงติดโผศูนย์กลางการเงิน 10 อันดับแรกแรกของ GFCI แม้ว่าการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 จะส่งผลให้จีนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกก็ตาม