มัดรวม 5 วิธีแก้ปัญหามือถือเปียกน้ำ ช่วงเทศกาลสงกรานต์

16 เม.ย. 2567 | 10:07 น.

มือถือเปียกน้ำช่วงสงกรานต์ อย่าเพิ่งตกใจ แนะ 5 วิธีแก้เบื้องต้น ก่อนส่งร้าน หรือศูนย์บริการ เช็คสุขภาพมือถืออีกรอบ

มือถือเปียกน้ำ หรือน้ำเข้า เป็นปัญหาใหญ่ๆ ที่พบได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากปล่อยทิ้งไว้ มือถืออาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ”รวบรวมวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น  กรณีมือถือเปียกน้ำ ต้องทำอย่างไรบ้าง

มัดรวม 5 วิธีแก้ปัญหามือถือเปียกน้ำ ช่วงเทศกาลสงกรานต์

1.ให้รีบปิดเครื่องทันที และห้ามชาร์จไฟโดยเด็ดขาด

หากมือถือเปียกน้ำ ให้รีบปิดเครื่องทันที เพราะถ้าหากเปิดเครื่องต่อไป อาจจะทำให้เครื่องช็อตได้ และการชาร์จไฟเข้าไปก็อาจจะทำให้วงจรภายในช็อตและเกิดความเสียหายได้เช่นกัน

2.รีบถอดอุปกรณ์ทุกอย่างออกจากตัวเครื่องทันที

ไม่ว่าจะเป็นตัวเคส ซิม Micro-sd แบตเตอรี่ ถาดซิม ฝาหลัง และอื่นๆที่สามารถถอดได้เอง เพื่อไม่ให้น้ำและความชื้นสะสมอยู่ในตัวอุปกรณ์

3.รีบเช็ดตัวเครื่อง หรือหาทางทำให้เครื่องแห้งสนิท

อาจจะใช้ผ้าเช็ดภายนอกให้แห้งหรือใช้ที่ดูดฝุ่น ดูดน้ำออกมา  โดยระวังให้น้ำไหลเข้าสู่ตัวเครื่อง ห้ามใช้ไดร์เป่าผม หรือที่เป่าลมโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำไหลเข้าสู่วงจรภายในมากขึ้นได้และความร้อนของลมจากไดร์เป่าผมอาจทำให้แผงวงจรเสียหาย

4.นำตัวเครื่องไปแช่ในข้าวสารประมาณ 1-2 วัน

คุณสมบัติของข้าวสารแห้ง จะช่วยดูดซับความชื้นได้ โดยให้แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าแห้งสนิท

5.นำตัวเครื่องไปเช็คที่ศูนย์บริการ

เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญหรือช่างซ่อมได้ตรวจสอบความแน่ใจว่าแห้งสนิทจริง ไม่แนะนำให้เปิดมือถือใช้ทันทีหลังจากแช่ข้าวสาร เพราะเราไม่รู้ว่าวงจรภายในนั้นแห้งสนิทจริงหรือไม่

มือถือเปียกน้ำ  เปิดไม่ติด ค่าซ่อมกี่บาท

หลังจากโทรศัพท์มือถือเปียกน้ำแล้วเปิดไม่ติด แม้โทรศัพท์มือถือจะแห้งสนิท และได้ลองพยายามชาร์จแบตเตอรี่แล้ว อาจจะต้องให้ทางศูนย์ หรือร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือช่วยตรวจสอบและประเมินค่าซ่อม โดยจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป ซึ่งร้านซ่อมมือถือทั่วไป อาจจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 500-1,000 บาทขึ้นไป หากส่งซ่อมศูนย์ อย่าง Apple หรือซัมซุง อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 บาท ขึ้นอยู่กับมือถือแต่ละรุ่น รวมถึงอาการและชิ้นส่วนของมือถือที่ต้องซ่อม