นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล ว่า ขณะนี้ราคาดีเซลตลาดโลกทะลุ 104 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่า ยิ่งทำให้ต้นทุนราคาดีเซลสูงขึ้น
ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบเฉียด 1 แสนล้านบาทแล้ว ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรทำในเวลานี้คือ ให้กระทรวงการคลังขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 1 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 2 เดือน
จากที่จะครบกำหนดวันที่ 19 เมษายนนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้นานที่สุด ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยไม่ดี ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ ท่องเที่ยวยังไม่ขยายตัวเท่าที่ควร
โดยเมื่อครบ 2 เดือนจะเป็นช่วงที่งบประมาณ 2567 มีการเบิกจ่ายพอดี นอกจากนี้ยังต้องการให้กระทรวงการคลังช่วยกองทุนน้ำมันฯหาแหล่งเงินกู้ต้นทุนต่ำ
เพื่อใช้ในการดูแลสภาพคล่อง เพราะปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ต้องจ่ายดอกเบี้ยหลายร้อยล้านบาทต่อเดือน จากภาระเงินกู้วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท
"คลังควรเข้ามาช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวนี้ เพราะเศรษฐกิจไทยแย่จริง โดยคาดว่า 2 เดือนจากนี้เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น เมื่องบประมาณ 2567 เข้าระบบ แต่หากยื้อไหวจำเป็นต้องขึ้นราคาดีเซลก็มองว่าไม่ควรเกิน 1 บาทต่อลิตร หรือราคาขายปลีกไม่ควรเกิน 31 บาทต่อลิตร"