ทางออกใหม่ เปิดพื้นที่ตาบอด สู่พื้นที่ทำเลทอง มหาดไทย จัดรูปที่ดินฯ ชัยภูมิ

28 เม.ย. 2567 | 12:24 น.

มหาดไทย ผนึกพลัง ราษฎร์-รัฐ ทางออกใหม่ เปิดพื้นที่ตาบอด สู่พื้นที่ทำเลทอง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เปลี่ยนเมืองให้เติบโต ด้วยโครงการจัดรูปที่ดินฯ จังหวัดชัยภูมิ

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ในพิธีเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ โดยมีนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวรายงาน  บริเวณพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ โดยโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ถือเป็นก้าวแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเมืองแบบราษฎร์ - รัฐ

ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ดินด้วยการ "ปัน" เพื่อ "เปลี่ยน" สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในคราวเดียวทั้งบริเวณ สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ตรงวัตถุประสงค์ผู้ใช้ สอดคล้องตามที่ผังเมืองกำหนด เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม เปิดพื้นที่ตาบอดให้สามารถเข้าถึง และมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการที่ได้มาตรฐาน เกิดความปลอดภัย ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดี และการพัฒนาสิ่งดีดีให้เกิดขึ้นในจังหวัดชัยภูมิ

อนุทิน ชาญวีรกูล

ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ดินด้วยการ "ปัน" เพื่อ "เปลี่ยน"

 

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนภารกิจมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ได้รับการพัฒนา มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การจัดรูปที่ดินหรือ Land Readjustment ถือเป็นแนวทางที่มีความ “ทันโลก ทันสมัย และทันท่วงที” ตอบโจทย์ “การพัฒนาเมืองสมัยใหม่” ที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนด้วยแนวทางการมีส่วนร่วมจากคนในชุมชน เปิดโอกาสให้เจ้าของที่ดิน มาออกแบบและวางแผนร่วมกัน โดยมี “ภาครัฐ” เป็นผู้บริหารจัดการ

การจัดรูปที่ดิน ถ้าจะเปรียบก็เหมือน “การจัดบ้านใหม่” โดยชวนทุกคนมาร่วมด้วยช่วยกัน จัดให้เกิดความสะดวกมากขึ้น ให้คนในบ้านใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น โดยจะเป็นการเปิดพื้นที่ตาบอด ซึ่งไม่มีถนน ไฟฟ้า ประปา ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าของที่ดินที่ต้องการมา “ลงขัน” ในรูปของการปันที่ดิน และรับประโยชน์ร่วมกัน ที่สุดแล้วก็จะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ เป็นโครงการที่ทำได้เร็วและทำได้เลย เป็นโครงการที่กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นตั้งใจทำ

เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนและหวังให้เกิดการขยายผลทุกจังหวัด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขเพิ่มมากขึ้นจากการทำงานร่วมกันระหว่างประชาชนกับรัฐ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน บรรเทาความเดือดร้อนจากการใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับพี่น้องประชาชน โดยนำพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 มาดำเนินการ

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการจัดรูปที่ดินเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่กรมโยธาธิการและผังเมืองขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนซึ่งมีที่ดินในเมืองที่สาธารณูปโภคเข้าไม่ถึง ที่ดินตาบอดไม่สามารถใช้ประโยชน์ โดยส่งเสริมให้ประชาชนมาร่วมกับภาครัฐพัฒนาถนนตามผังเมือง และจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า ประปา ระบบระบายน้ำที่ได้มาตรฐาน เข้าถึงที่ดินทุกแปลง พร้อมกับวางผังจัดรูปแปลงที่ดินใหม่

ทำให้แปลงที่ดินเดิมได้รับการปรับรูปร่างและจัดตำแหน่งใหม่ ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้เต็มศักยภาพ โดยยังคงกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินไว้ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการต้องปันหรือสละที่ดินของตน เพื่อเป็นถนน สวนสาธารณะ โดยรัฐไม่ต้องเวนคืนที่ดิน รวมทั้งเป็นที่ดินจัดหาประโยชน์สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายอื่นในโครงการ ทำให้สามารถพัฒนาเมืองตามผังเมืองได้เร็วขึ้นประหยัดงบประมาณภาครัฐมากขึ้น

พงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์

กระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำ เกิดความสะดวกสบาย ความปลอดภัย สร้างรายได้ สร้างความสุขในทุกพื้นที่ ซึ่งกรมฯ มีนโยบายให้ทุกจังหวัดดำเนินโครงการก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวมด้วยวิธีการจัดรูปที่ดินฯ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 โครงการ ปัจจุบันได้ดำเนินโครงการแล้วในพื้นที่ 54 จังหวัด 71 โครงการ ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ดิน19,225 ไร่ คิดเป็นจำนวนแปลงที่ดินที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น 5,816 แปลง มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นเป็นเงิน 50,039 ล้านบาท ถนนได้รับการพัฒนาเป็นระยะทาง 217 กิโลเมตร ซึ่งทำให้รัฐประหยัดงบประมาณเวนคืนที่ดินกว่า 2,772 ล้านบาท

สำหรับโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่โครงการ 120-0-94.41 ไร่ แปลงที่ดิน 42 แปลง เจ้าของที่ดิน 30 ราย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจัดสรรงบประมาณ 27.54 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวมชัยภูมิสาย ข4 ขนาดเขตทาง 16 เมตร ระยะทาง 655 เมตร เชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 (ถนนชัยภูมิ- บ้านเขว้า) กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว) ส่วนการก่อสร้างถนนสายรอง  ขนาดเขตทาง 12 เมตร จำนวน 3 สาย ความยาวรวม 1,140 เมตร และองค์ประกอบอื่นๆ ในโครงการอีก 29.075 ล้านบาท หรือราว 51.4% ของค่าใช้จ่ายการพัฒนาโครงการฯ

มาจากการจำหน่ายที่ดินจัดหาประโยชน์ของโครงการ ที่เจ้าของที่ดินผู้ร่วมโครงการ สละให้เพิ่มจากที่ดินที่ใช้สร้างถนนเพื่อนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ซึ่ง โครงการฯ ได้กู้ยืมเงินจากกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ 20.805 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาโครงการฯ ภายหลังการดำเนินโครงการฯ ส่งผลให้รัฐได้พื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวน 11-2-43.74 ไร่ จากการปันส่วนที่ดินของผู้เข้าร่วมโครงการ และมีพื้นที่โครงการจะยกให้สถาบันการศึกษา 0-2-36.77 ไร่ เพื่อสนับสนุนการศึกษาของคนในพื้นที่ ถือเป็นก้าวแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเมืองแบบราษฎร์-รัฐ ร่วมพัฒนา เปลี่ยนแปลงเมืองชัยภูมิ สู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น Change for Good 

ด้าน นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดชัยภูมิ มีเป้าหมายการพัฒนาคือ “เศรษฐกิจก้าวหน้า สังคมและสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพอย่างยั่งยืน” ผลักดันการพัฒนาเมืองให้เกิดความยั่งยืน โดยได้ดำเนินการโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ชาวเมืองชัยภูมิได้รับประโยชน์ในหลายมิติ โครงการทำให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ที่ดิน มีถนนที่ได้มาตรฐาน เชื่อมโยงเส้นทางระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 (ถนนชัยภูมิ- บ้านเขว้า) กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว)

ช่วยบรรเทาการจราจรจากถนนสายหลักของเมือง เกิดความสะดวก ลดระยะเวลาเดินทาง เลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงห้าแยกโนนไฮ ที่ดินหลังดำเนินโครงการมีมูลค่าสูงขึ้นหลายเท่า และวันนี้กระทรวงมหาดไทย ได้จัดพิธีเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ถนนอย่างเป็นทางการ ถือเป็นประโยชน์กับจังหวัดชัยภูมิอย่างยิ่ง ความสำเร็จนี้นำมาซึ่งความยินดีและภาคภูมิใจที่พี่น้องชาวชัยภูมิได้เข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐ ผ่านโครงการพัฒนาที่ดินและโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาบ้านของตนเอง  ตามโครงการ“จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ : พัฒนาพื้นที่ พัฒนาเมือง พัฒนาคุณภาพชีวิต”