ธปท.ขึงขัง -แก้หนี้เรื้อรัง รุดตรวจผู้ให้บริการเดือน มี.ค. 67 ก่อนดีเดย์ 1 เม.ย. 67

13 มี.ค. 2567 | 10:21 น.

แบงก์ชาติ เปิดไทม์ไลน์ -แก้หนี้เรื้อรัง 1ม.ย.67 ส่งทีมตรวจสอบผู้ให้บริการทั้งการแจ้งเตือนลูกหนี้ ติดตามตัวเลขการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ชี้การชำระแบบจ่ายขั้นต่ำ 3% ตัดเงินต้นแค่ 0.9%กว่าจะชำระหมดต้องใช้เวลาถึง 18ปี

วันที่ 13 มีนาคม 2567 นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยว่า  ตั้งแต่ 1 เม.ย. 67 ลูกหนี้ที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt: PD) ที่เป็นกลุ่มเปราะบางจะได้รับความช่วยเหลือให้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้นและลดภาระดอกเบี้ย โดยลูกหนี้ที่เข้าข่ายเรื้อรัง คือ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทวงเงินหมุนเวียน (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล บัตรเครดิต) ที่ไม่เป็น NPL และชำระดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นที่ชำระมาทั้งหมดเป็นระยะเวลานาน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1. ลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาหนี้เรื้อรัง (general PD) คือ ลูกหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม มาแล้ว 3 ปีแต่ไม่ถึง 5 ปีโดยลูกหนี้จะได้รับการแจ้งเตือน เพื่อกระตุกพฤติกรรมให้จ่ายชำระหนี้เพิ่มเติมและพิจารณาขอความช่วยเหลือให้สามารถปิดจบหนี้เร็วขึ้นได้

2. ลูกหนี้ที่เป็นหนี้เรื้อรัง (severe PD) คือ ลูกหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม มาแล้ว 5 ปีและมี รายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 20,000 บาท สำหรับลูกหนี้สถาบันการเงินและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน หรือน้อยกว่า 10,000 บาท สำหรับลูกหนี้นอนแบงก์ โดยลูกหนี้จะได้รับการแจ้งเตือน และสมัครใจเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง (opt-in) ด้วยการเปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็นสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด (installment loan) ให้ปิดจบหนี้ได้ภายใน 5 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไม่เกิน 15% ต่อปีโดยลูกหนี้จะต้องปิดวงเงินสินเชื่อที่ เข้าร่วมมาตรการ เพื่อให้ปิดจบหนี้ภายใต้มาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการรายงานประวัติข้อมูล เครดิตว่าได้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวด้วย

ธปท.ขึงขัง -แก้หนี้เรื้อรัง รุดตรวจผู้ให้บริการเดือน มี.ค. 67 ก่อนดีเดย์ 1 เม.ย. 67

“กลุ่มลูกหนี้เรื้องรังที่เข้าข่ายนั้น ต้องเป็นลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับหรือเพอร์ซัลนอลโลน  บัตรกดเงินสด สินเชื่อหมุนเวียน ซึ่งบัตรกดเงินสดจะมีการชำระคืน 2แบบ คือ แบบงวดๆมีระยะเวลาชัดเจนลูกหนี้ปิดจบได้  แต่ถ้าหากเป็นการชำระแบบจ่ายขั้นต่ำ  3% ที่ยังไม่เป็นเอ็นพีแอลและประวัตการชำระดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น สมมติ ใช้บัตรกดเงินสดดอกเบี้ยปีละ 25% ถ้าจ่ายขั้นต่ำ 3% จะตัดเงินต้นเพียง 0.9%ของเงินต้นเท่านั้น  จะเห็นว่ารูดครั้งเดียวแต่กว่าจะชำระหมดต้องใช้เวลาถึง 18ปี  เพราะฉะนั้น กลุ่มที่เข้ามาตรการแก้หนี้เรื้อรังได้ต้องเป็นกลุ่มที่ตัดดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น  คือ ดอกท่วมต้นแน่ๆ เพราะจ่ายขั้นต่ำแค่ 3% หรือ 5%

ธปท.ขึงขัง -แก้หนี้เรื้อรัง รุดตรวจผู้ให้บริการเดือน มี.ค. 67 ก่อนดีเดย์ 1 เม.ย. 67

 

ทั้งนี้ Timeline การดำเนินการ กำหนดให้เจ้าหนี้จะดึงข้อมูลลูกหนี้ที่เข้าข่ายทั้ง general PDและ severe PD ใช้ข้อมูลในเดือน ก.พ. 2567 และต้องแจ้งเตือนลูกหนี้เป็นรายบัญชีและรายงานให้ธปท.ภายในเดือน เม.ย.และ ส่งข้อมูลลูกหนี้ที่สมัครเข้า Severe PD (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 67) ให้กับธปท.ในเดือน ก.ค. 

โดยลูกหนี้ทั้ง 2 กลุ่ม จะได้รับการแจ้งเตือนเป็นรายบัญชี(อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง) ผ่านช่องทางที่ตกลงไว้กับ เจ้าหนี้อย่างน้อย 1 ช่องทาง เช่น จดหมาย อีเมล SMS mobile application เพื่อกระตุ้นให้จ่ายชำระหนี้เพิ่มขึ้นตลอดจนสมัครเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง หากลูกหนี้ต้องการทราบสถานะของตนเอง สามารถติดต่อสาขาหรือ call center ของผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบสถานะและสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมมาตรการแก้หนี้เรื้อรังได้

ธปท.ขึงขัง -แก้หนี้เรื้อรัง รุดตรวจผู้ให้บริการเดือน มี.ค. 67 ก่อนดีเดย์ 1 เม.ย. 67

อย่างไรก็ดี มาตรการปิดจบหนี้เรื้อรังจะเน้นช่วยลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทวงเงิน หมุนเวียนที่จ่ายขั้นต่ำมานาน ซึ่งมีความตั้งใจจะปิดจบหนี้และสมัครใจในการเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกหนี้กลุ่มอื่น ๆ ที่มีปัญหาในการชำระหนี้ สามารถติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอรับความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้เกณฑ์Responsible Lending หรือแนวทางอื่น ๆ ภายใต้การแก้หนี้อย่างยั่งยืนของ ธปท.

 ธปท. จะกำกับดูแลผู้ให้บริการอย่างใกล้ชิด ติดตามและผลักดันให้ผู้ให้บริการปฏิบัติตามเกณฑ์ Responsible Lending อย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกหนี้ได้รับการช่วยเหลือที่ทันการณ์ เหมาะสม และได้รับบริการที่เป็นธรรม โดยในเดือน มี.ค. 67 จะเข้าตรวจสอบปูพรมผู้ให้บริการผ่านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง (ongoing supervision)

เช่น สุ่มตรวจสอบการปรับโครงสร้างหนี้ว่าผู้ให้บริการได้เข้าช่วยเหลือแก้หนี้จริง รวมถึงคุณภาพของการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การให้ข้อมูลการปรับโครงสร้างหนี้อย่างครบถ้วน ตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรังทั้งเรื่องการแจ้งเตือนลูกหนี้ และติดตามตัวเลขการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เรื้อรังอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนตรวจสอบ ความถูกต้องของการคิดค่าธรรมเนียม เช่น prepayment fee ทั้งนี้ หาก ธปท. ตรวจสอบพบประเด็นสำคัญ จะสั่งการให้ผู้ให้บริการแก้ไขทันที และพิจารณาบทลงโทษที่เหมาะสมต่อไป

ธปท.ขึงขัง -แก้หนี้เรื้อรัง รุดตรวจผู้ให้บริการเดือน มี.ค. 67 ก่อนดีเดย์ 1 เม.ย. 67