"Tesla" เลย์ออฟพนักงาน 285 คน ในนิวยอร์ก หลังยอดขายรถ EV ร่วง

18 เม.ย. 2567 | 06:39 น.

"Tesla" เดินแผนลดจำนวนพนักงานทั่วโลก เล็งเลิกจ้างพนักงาน 285 คน ในนิวยอร์ก หลังเจอแรงกดดันจากยอดขายที่ลดลงและสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้าที่รุนแรงขึ้นในตลาด EV

Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Elon Musk ประกาศจะเลิกจ้างพนักงาน 285 คนในเมืองบัฟฟาโล นิวยอร์ก (Buffalo, New York) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดจำนวนพนักงานทั่วโลก 10% โดยเป็นการออกมาระบุชี้แจงตามกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับการแจ้งเตือนการปรับและฝึกอบรมพนักงาน หรือ Worker Adjustment and Retraining Notification (WARN) ที่กำหนดให้นายจ้างต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วันก่อนเลิกจ้างพนักงาน

ภายใต้แรงกดดันจากยอดขายที่ลดลงและสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นสำหรับรถยนต์ EV ของ Tesla บริษัทระบุว่าการเลิกจ้างจะเริ่มในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 อันเนื่องมาจากเหตุผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีพนักงานในโรงงานของ Tesla ทั้งหมด 2,032 คน ที่ได้รับผลกระทบรวม 2 แห่งในเมืองบัฟฟาโล โดยผลกระทบจากแผนการปรับลดพนักงานในครั้งนี้จะกระทบต่อพนักงานประมาณ 14%

ด้าน Elon Musk เคยชี้แจงว่า บริษัทจำเป็นต้องมีการจัดระเบียบใหม่และปรับปรุงเพื่อการเติบโตในระยะต่อไปทุกๆ 5 ปี รวมถึงได้มีการประกาศลดพนักงานรอบสุดท้ายไปในปี 2565 จากปัญหาทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการประกาศลดตำแหน่งงานครั้งใหญ่ของ Tesla เลยก็ว่าได้

ตามเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา พบว่าก่อนหน้านี้ Tesla มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นจากประมาณ 100,000 คนในปลายปี 2564 เป็นมากกว่า 140,000 คนในปลายปี 2566 ทว่า ภายหลังการต่อสู้กับยอดขายที่ลดลงและสงครามราคายานยนต์ไฟฟ้าที่รุนแรงขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้ Tesla ต้องพิจารณาทุกแง่มุมเพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตบริษัท เพื่อให้ยังสามารถเติบโตในระยะต่อไปได้ นั่นทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะลดจำนวนพนักงานลงมากกว่า 10% ทั่วโลก

มาถึงการประกาศเลย์ออฟพนักงานในเมืองบัฟฟาโล นิวยอร์ก ในครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบไปถึงพนักงานที่ทำงานกับโรงงานทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการผลิตกระเบื้องหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ โดย Tesla ได้ใช้เป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์ชาร์จเร็วและแหล่งพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Autopilot รวมถึงถูกกำหนดให้เป็นที่ตั้งของโครงการ Dojo supercomputer ของ Tesla อีกด้วย

นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว พนักงานทีม Autopilot ในเมืองบัฟฟาโล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงจรการตรวจสอบประสิทธิภาพที่มีการดำเนินการทุกๆ 6 เดือน ก็ได้มีการถูกเลย์ออฟไปทั้งสิ้น 4% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่คนงานเปิดตัวการรณรงค์จัดตั้งสหภาพแรงงาน ทั้งนี้ Tesla กล่าวว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบได้รับการระบุตัวตนแล้ว ก่อนที่จะมีการประกาศการรณรงค์ของสหภาพแรงงานออกมา 

การประกาศเลิกจ้างพนักงานเกิดขึ้นหลังจากที่ Tesla ได้ประกาศยกเลิกโปรเจครถยนต์ราคาประหยัด (The long-promised inexpensive car) ไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์ (ราว 900,000 บาทไทย) รวมถึงเป็นโปรเจคที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดมวลชน หรือ Mass-Market ที่มีกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากได้

ทั้งนี้ Tesla จะมีการดำเนินการการฟื้นฟูโมเดลรุ่นเก่าไปอย่างช้าๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงได้บั่นทอนความอยากของผู้บริโภคสำหรับสินค้าที่มีราคาแพง ในขณะที่คู่แข่งด้าน EV ในจีน ที่ถือว่าเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็กำลังดำเนินแผนเปิดตัวโมเดลที่มีราคาถูกลงอยู่เช่นกัน

 

ขอบคุณที่มา : สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters)