Lotus Cars แบรนด์อังกฤษเจ้าของจีนคือ Geely (ได้มาตอนซื้อ โปรตอน ของมาเลเซีย) เตรียมกลับมาลุยตลาดไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังเซ็นสัญญากับ “เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ” ให้เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเตรียมแถลงข่าวธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่โชว์รูม-ศูนย์บริการ จะตั้งอยู่ชั้นบนโชว์รูมวอลโว่ หัวหมากในปัจจุบัน
สำหรับโชว์รูมโลตัสจะอยู่ชั้นสอง (ส่วนโชว์รูมและช่องซ่อมของวอลโว่อยู่ชั้นหนึ่ง) ปัจจุบันกำลังเตรียมการรีโนเวทตาม CI ของโลตัส พร้อมเปิดดำเนินการในเดือนสิงหาคม 2564
ส่วนโปรดักต์ในการทำตลาดช่วงแรก “เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ” ยังต้องยอมรับในการขายรถรุ่นปัจจุบันอย่าง Lotus Exige และ Lotus Elise ที่เป็นโฉม Final Edition หรือหมดแล้วหมดเลยไม่ทำตลาดอีกแล้ว เพราะแผนงานในอนาคตของโลตัส จะเปลี่ยนเป็นรถพลังงานไฟฟ้า ทั้งหมดในปี 2571 เป็นต้นไป
ล่าสุด โลตัสเปิดตัว Lotus Evija ไฮเปอร์คาร์ EV ที่ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า บริษัทเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคใหม่ของระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งยังเป็นรถที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลตัส หากนำเข้ามาขายในเมืองไทย คาดราคาเกิน 100 ล้านบาทแน่นอน
ด้วยรูปทรงแบบซูเปอร์คาร์ ประตูซิสเซอร์เปิดเฉียงขึ้นด้านบน วางมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกการควบคุมในแต่ละล้อ ให้กำลังรวม 2,000 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,700 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ตํ่ากว่า 3.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 70 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางสุงสุด 346 กิโลเมตร
“โชว์รูมโลตัส มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฏาคม และคาดว่าภายในเดือนสิงหาคม 2564 จะเปิดตัวอย่างเป็นทาง โดยรถที่เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในช่วงแรกคือ Elise และ Exige รุ่น Final edition ซึ่งมีจำหน่ายในจำนวนจำกัด ซึ่งราคายังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนไฮเปอร์คาร์ EV รุ่น Evija มีแผนนำเข้ามาจัดแสดง หากลูกค้าท่านไหนสนใจสามารถสั่งจองได้” นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการทั่วไป เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทยกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในแผนการระดับโลกของโลตัส ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรถ EV ทั้งหมด ยังเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่วางเครื่องยนต์เบนซิน(ไม่ใช่ขุมพลังไฮบริด) คือ Lotus Emira โดยเผยโฉมครั้งแรกในโลกวันที่ 6 กรกฎาคม นี้ คาดว่าจะวางตำแหน่งการทำตลาดในระดับเดียวกับ Porsche 911
ส่วนรถยนต์ 2 รุ่นที่ยืนยันนำเข้ามาแน่ๆ คือ Lotus Exige Sport Final Edition และLotus Elise Sport Final Edition สปอร์ตคาร์อมตะ ที่จะทำตลาดเป็นล็อตสุดท้าย ซึ่งควรค่าแก่การซื้อเก็บสะสม โดย เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ เชื่อว่า กลุ่มแฟนคลับโลตัสในไทยยังมีความต้องการอยู่จำนวนหนึ่ง
ขณะที่เป้าหมายใหญ่คือ การขยับสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าของโลตัส ซึ่งเน้นขาย EV สายพันธ์ุหรู สมรรถนะสูง ระดับเดียวกับ ปอร์เช่ ไทคานน์ หรือเทสล่า โมเดล เอส เหนืออื่นใดการทำตลาดจะไม่ชนกับวอลโว่ ที่ตนเองเป็นดีลเลอร์อยู่ เพราะแบรนด์สวีเดน ยังไม่มีแผนนำเข้า Polestar มาขายในไทย (ส่วนการทำตลาดในระดับแมส EV ต้องลุ้นการเข้ามาทำตลาดเองของ บริษัทแม่คือ Geely)
ปัจจุบัน เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ เป็นดีลเลอร์วอลโว่รายใหญ่ มีโชว์รูม-ศูนย์บริการที่หัวหมาก (สถานีแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง) และยุติการเป็นดีลเลอร์มาสด้าในไทยแล้ว ส่วนธุรกิจใหม่ โลตัส เคยดูแลตลาดในไทยโดย นิชคาร์ ที่ตอนนี้เหลือแบรนด์ แมคลาเรน ซูเปอร์คาร์จากอังกฤษอยู่ในมือ ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว Mclaren
Artura ซูเปอร์คาร์ปลั๊ก-อินไฮบริด ราคา 16.7 ล้านบาท
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,675 วันที่ 2 - 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564