สปสช. แก้ปัญหา "บัตรทองกทม." ให้ใช้ใบส่งตัวเดิมไปจนหมดอายุ 

25 มี.ค. 2567 | 08:45 น.

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ -สปสช. เห็นพ้องสางปัญหาส่งตัวผู้ป่วย "บัตรทองกทม." ระยะสั้นให้ใช้ใบส่งตัวเดิมไปจนกว่าจะหมดอายุ ด้าน เลขาฯ สปสช. เผย อนาคตควรใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน

25 มีนาคม 67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถึงประเด็นการจัดการระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งมีการปรับรูปแบบการจ่ายเงินมีผลตั้งแต่วันที่ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567

หลังปรับการจ่ายเงินทำให้มีผลต่อการรับบริการกรณีที่การรักษาของผู้ป่วยเกินศักยภาพคลินิก คลินิกจะออกใบส่งต่อให้ผู้ป่วยไปโรงพยาบาลตามสิทธิ หากผู้ป่วยมีใบนัดรักษาต่อเนื่องสามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลรับส่งต่อโดยอนุโลมให้ใช้ OP Anywhere ซึ่งในระยะเปลี่ยนผ่าน ประชาชน คลินิก และหน่วยบริการยังมีความเข้าใจไม่ตรงกันนั้น 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการหารือร่วมกันระหว่าง กทม. กับ สปสช. โดยภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดการระบบบริการสาธารณสุขตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา อาจจะทำให้ประชาชนสับสนโดยเฉพาะเรื่องใบส่งตัว

จากหน่วยปฐมภูมิไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ และมีประเด็นสงสัย เช่น โรงพยาบาลอาจต้องการให้ทำใบส่งตัวใหม่ หรือประชาชนอาจยังไม่เข้าใจจึงมาขอทำใบส่งตัวใหม่จากทางศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ของกทม.ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

โดยทางสปสช. ให้แนวทางดําเนินการว่า ใบส่งตัวที่ออกไปก่อนหน้านี้แล้วถือว่า ให้ใช้ได้ตามปกติจนกระทั่งหมดอายุซึ่งกทม.ก็พร้อมที่จะดําเนินการตามแนวทาง

ส่วนคลินิกหรือโรงพยาบาลเองก็คงต้องเป็นแนวทางปฏิบัติที่ สปสช.จะไปเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยในอนาคตเรื่องระบบส่งตัวจะมีจากคลินิกส่งตัวให้ ศบส. หรือ ศบส.ส่งตัวให้โรงพยาบาลก็จะเป็นระบบที่ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่สปสช.กําหนด

สปสช. แก้ปัญหา \"บัตรทองกทม.\" ให้ใช้ใบส่งตัวเดิมไปจนหมดอายุ 

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ที่เรามีปัญหาเรื่องใบส่งตัวเดิมที่เคยส่งตัวไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ แล้ว อาจจะเกิดความสับสนเข้าใจไม่ตรงกันต้องมีการเรียกกลับมารับใบส่งตัว ในส่วนของสังกัดกรุงเทพมหานครทั้งหมดท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้มีการสั่งการว่า ให้ดําเนินการจนกว่าใบส่งตัวจะหมดอายุ เชื่อว่า ตรงนี้จะแก้ปัญหาไปได้เยอะ 

ส่วนสปสช.เองก็รับปากท่านผู้ว่าฯ ว่า จะซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยบริการที่รับส่งต่อซึ่งบางครั้งประชาชนอาจจะกังวลว่า ถ้าไม่มีใบส่งต่อแล้วใครจะมาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทางเราจะรับนโยบายผู้ว่าฯ ไปซักซ้อมตรงนี้กับหน่วยอื่นที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดกทม. รวมถึงนโยบายในอนาคตที่ใบส่งตัวควรใช้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ สำหรับกติกาการเงิน เรามีความชัดเจนแล้วว่า เงินส่วนแรกที่จะจ่ายจะเปลี่ยนเป็นจ่ายในลักษณะเหมาจ่ายรายหัวประชากรที่ขึ้นทะเบียนในเครือข่าย

เพราะฉะนั้น เครือข่ายจะมีทั้ง ศบส.และคลินิก และมีการส่งต่อไปก็จะตามจ่ายในส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด กําหนดครั้งละไม่เกิน 800 บาท

สปสช. แก้ปัญหา \"บัตรทองกทม.\" ให้ใช้ใบส่งตัวเดิมไปจนหมดอายุ 

ส่วนกรณีถ้าประชาชนไม่ได้มีใบส่งตัวไป ในส่วนของโรงพยาบาลที่รับส่งต่อจะมีกองทุนอีกกองหนึ่งตามไปจ่ายซึ่งได้มีการซักซ้อมกับหน่วยบริการให้ความมั่นใจว่า ในแง่กลไกการเงินมีการดูในทุกระดับ แต่ต้องเรียนว่า เราไม่ได้สนับสนุนให้ประชาชนเดินทางไปรับบริการยังโรงพยาบาลใหญ่โดยที่ไม่มีระบบอะไร ยังคงย้ำตรงนี้ เพราะเป็นไปตามกฎหมาย พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแนวทางหมายความว่า จากนี้เป็นต้นไปต้องเริ่มจากหน่วยปฐมภูมิ คือ คลินิกหรือว่า ศบส.ที่ตนเองลงทะเบียนอยู่ จากนั้นการส่งต่อก็จะเป็นขั้นตอนไป หากคลินิกเห็นว่า รับมือไม่ไหวก็ส่งไปยังศบส. หรือหน่วยระดับสอง หากไม่ไหวก็ส่งต่อไปหน่วยระดับสาม คือ โรงพยาบาล เป็นขั้นตอนที่มีการคัดกรองเพื่อลดภาระที่จะไปสู่โรงพยาบาลให้มากที่สุด ไม่ใช่ว่า ทุกคนต้องไปโรงพยาบาลหมดทําให้โรงพยาบาลคิวยาวและแออัด

"ถ้าเราสามารถทําให้คลินิกชุมชนอบอุ่นเข้มแข็ง ศบส.เข้มแข็งจะมีด่านที่ปะทะเป็นด่าน ๆ ไป เป็นขั้นตอนตามหลักสากล แต่สุดท้ายแล้วทุกหน่วยก็ต้องมีความรับผิดชอบ มีความเข้มแข็ง หน้าที่ของศบส.เองต้องพยายามช่วยดูแลคลินิกให้เข้มแข็งด้วย" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว