หน้ากากอนามัยถอดได้แล้วจริงหรือไม่ กลุ่มไหนที่ยังเสี่ยงสูง เช็คเลยที่นี่

26 มิ.ย. 2565 | 02:34 น.

หน้ากากอนามัยถอดได้แล้วจริงหรือไม่ กลุ่มไหนที่ยังเสี่ยงสูง เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยแนะสวมต่อไป ชี้มีประโยชน์ทั้งลดการรับเชื้อ และลดการแพร่เชื้อ

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ว่ากันเสียให้ชัด กฎหมายไม่บังคับให้สวมหน้ากาก แต่แนะนำให้สวมหน้ากากต่อไป เพราะมีประโยชน์ทั้งลดการรับเชื้อ และลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น

 

โควิดเกิดขึ้นในโลกนี้ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และพบในประเทศไทยเมื่อเดือนมกราคม 2563

 

หลังจากนั้น มีการแพร่ระบาดของโควิดทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก ที่รุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ จนเกิดการระบาดที่รุนแรงสูงสุดด้วยสายพันธุ์เดลตา

 

ประเทศไทยเองก็ประสบกับการระบาดของเดลต้าอย่างรุนแรงและกว้างขวาง ผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 20,000 คน

 

จึงทำให้ ในวันที่ 19 มิถุนายน 2564  ซึ่งมีเดลต้าระบาดอย่างรุนแรงนั้น ได้ออกประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 24
 

ให้ประชาชนสวมหน้ากากไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือที่สาธารณะ

 

ถ้าไม่สวม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือน สั่งให้สวมหน้ากาก ถ้ายังไม่ปฏิบัติตาม ให้ดำเนินการตามกฏหมาย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2548

 

หน้ากากอนามัยถอดได้แล้วจริงหรือไม่

 

หมายความว่าตั้งแต่ 19 มิถุนายน  2564 เป็นต้นมา ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏหมายคือ ใส่หน้ากากเมื่ออยู่นอกเคหสถานของตนเอง หรืออยู่ในที่สาธารณะ ไม่ใช่เลือกใส่หน้ากากได้เองตามความสมัครใจ

 

23 มิถุนายน 2565 เป็นช่วงที่ไวรัสโอไมครอนระบาด เป็นสายพันธุ์หลักที่มีความรุนแรงน้อยลง

 

ในขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างมาตรการควบคุมทางสาธารณสุข กับมาตรการผ่อนคลายให้ดำเนินการทางเศรษฐกิจและสังคมได้

 

จึงได้มีประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 46  ให้การสวมหน้ากากนั้น เป็นไปโดยสมัครใจ

แต่ยังมีข้อแนะนำให้สวมหน้ากากต่อไปดังนี้

 

  • กลุ่มประชาชนทั่วไป ควรสวมหน้ากากในสถานที่หรือพื้นที่แออัด ในที่มีคนรวมกลุ่มจำนวนมากและเว้นระยะห่างไม่ได้ หรือในสถานที่อากาศระบายถ่ายเทไม่ดี
  • กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงจากโควิดคือ กลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี และมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการที่จะรับเชื้อ
  • ผู้ที่ติดเชื้อ หรือผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่ออยู่ร่วมกับผู้บุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการที่จะแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น

 

ดังนั้นจึงพอกล่าวได้ว่า

 

หน้ากากอนามัยถอดได้แล้วจริงหรือไม่

 

ณ ปัจจุบัน นับตั้งแต่ 23 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป กฎหมายไม่บังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้านอกเคหสถานหรือที่สาธารณะแล้ว

 

แต่มีข้อแนะนำปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ให้ยังคงสวมหน้ากากต่อไป เพราะจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและต่อสาธารณะ

 

ทั้งในมิติของการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น

 

ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยมีโอกาสจะเข้าสู่ Post-Pandemic เพื่อที่จะเปลี่ยนผ่านไปเป็นโรคติดต่อทั่วไปในอนาคต

 

เพราะถ้ามีผู้ถอดหน้ากากกันเป็นจำนวนมาก และเกิดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มาตรการต่างๆก็จะต้องย้อนกลับมาเข้มงวดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ไม่สามารถเปลี่ยนผ่านไปเป็นโรคติดต่อทั่วไปได้