บิ๊ก SCBX กระตุ้นรัฐจัดสรรงบเพิ่ม ลงทุน AI

22 มี.ค. 2567 | 08:43 น.

บิ๊ก SCBX จี้รัฐ ต้องเพิ่มงบ R&D พัฒนา AI เหตุปัจจุบันใช้เพียง 1% จีดีพีน้อยกว่างบบริษัทของประเทศที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แนะจัดเก็บข้อมูลให้เป็น Big Data พร้อมสร้างคนรุ่นใหม่ให้มียีน AI ขับเคลื่อนประเทศ

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เดต้า เอกซ์ จำกัด (DataX) บรรยายพิเศษ: Al in Action: Vision to Reality for Thailand's Future Economy สู่การใช้จริง เพื่อขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจไทย ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจว่า ขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้ว่า AI มีประโยชน์อย่างไรในชีวิตประจำวัน บริษัท และประเทศชาติ แต่เราใช้ประโยชน์จาก AI มากน้อยแค่ไหน

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ หากพูดความพร้อมในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้  ประเทศไทยถือว่า มีความพร้อมในหลายมิติ โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 37 จาก 100 ประเทศ  แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ การนำ AI มาใช้ เพราะหลายบริษัทรู้สึกว่า มีการนำ AI มาใช้เพียง 20% ขณะที่ 80% ยังไม่พร้อม ดังนั้นมองว่าถึงจุดที่ประเทศไทยต้องผลักดันและพยายามใช้ AI มากขึ้นใน 4 เรื่องสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า คือ AI  DATA  Human และ Ecosystem

ด้านแรก AI  การขับเคลื่อนประเทศไทยให้แข็งแรง จำเป็นอย่างที่จะต้องมีความสามารถด้าน AI  มากขึ้น แต่การพัฒนาต้องมีการลงทุนด้าน R&D เพื่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ ในปัจจุบันไทย มีการใช้งบลงทุนด้าน R&D ปีละเพียง 5-6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2 แสนล้านบาท ราว 1% ของจีดีพีเท่านั้น

ขณะที่ประเทศที่มีความล้ำๆด้านเทคโนโลยี มีการลงทุนด้าน R&D สูงถึง 3.4 แสนล้านดอลลาร์ หรือหลายล้านล้านบาท  หรือเฉพาะบริษัทในสหรัฐเพียงบริษัทเดียว มีการลงทุนด้าน R&D สูงถึง 2 -4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่างบลงทุนของไทยทั้งประเทศ ดังนั้นเราจะมีความหวังอย่างไรในการแข่งขันในด้านการพัฒนาด้านเทคโนโลยี

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)

ข้อมูลที่ใช้ในการ  train Large Language Model (LLM) มีเพียง 0.4% เท่านั้นที่เทรนด้วยภาษาไทย เพราะนั่นคือสิ่งที่เนื้อหาภาษาไทยบนอินเทอร์เน็ตเป็น เราจึงต้องปรับปรุงความแม่นยำด้วยการฝึกให้มีเนื้อหาภาษาไทยมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการพัฒนา Typhoon Thai LLM ขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยี AI จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนงบลงทุนจากภาครัฐ เพราะประเทศไทยมีการลงทุนด้านนี้ค่อนข้างน้อย น้อยกว่าบริษัทสหรัฐที่มีการลงทุนเพียงบริษัทเดียว 3-4 เท่า ดังนั้นประเทศไทยจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้ และประเทศไทยต้องเอื้อให้เกิดการดึงเทคสตาร์ทอัพเก่งๆจากต่างประเทศ เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)

สอง DATA ปัจจุบันไทยยังขาดข้อมูลดาต้าอย่างมาก สะท้อนว่า ไทยไม่สามารถจัดเก็บดาต้าได้ตั้งแต่ต้นทาง ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้น คือการให้ความสำคัญด้านการจัดเก็บดาต้า และต้องจัดเก็บดาต้าแบบเรียลไทม์  ที่ภาครัฐต้องเร่งทำให้เกิดขึ้น ให้มี ข้อมูล Big Data ของเมืองไทย ไม่ว่าภาคเกษตร การชำระเงินของประเทศมากขึ้น เพราะวันนี้ฐานข้อมูลต่างๆ ยังแยกกันอยู่อย่างมาก และไม่ถูกแชร์ให้ใช้ร่วมกัน 

สาม Human คือการสนับสนุน ให้เกิดความสามารถในการจิตนาการว่า AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างไร ซึ่งในส่วนของ SCBX ปัจจุบัน บริษัทตั้งเป้า 80%ของพนักงาน 20,000 คนในปลายปีนี้ต้องมีเบสิกด้าน AI ว่า AI มีบทบาทอย่างไร หรือกระทบต่องานอย่างไร ให้มีความสามารถด้าน AI มากขึ้น ขณะที่ 10-20%ของพนักงานทั้งหมด ต้องมีความสามารถในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี AI มากขึ้น

สุดท้าย  Ecosystem คือสิ่งแวดล้อมต่างๆ ต้องเอื้อให้เทคโนโลยีเกิดขึ้น  ทั้งในด้านกฎหมาย การเอื้อให้เกิดการใช้ DATA ทำให้การนำมาใช้มีความคล่องตัวมากขึ้น หรือการสร้างจูงใจให้กับสตาร์ทอัพ เพื่อดึงผู้เชี่ยวชาญด้านAI ใหม่จากข้างนอกเข้ามามากขึ้น

“สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากเอกชน และภาครัฐ ในการผลักดันให้ประเทศไทย เป็น “AI HUB” ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อดึง R&D ใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เช่น การลงทุนจากกูเกิ้ล ไมโครซอฟท์ มาตั้งในประเทศไทยมากขึ้น”ดร.อารักษ์กล่าว