"วิศาลท์ บูรณสันติกูล" โชว์ MICRO กระแสเงินสดแกร่ง พร้อมถอนหุ้นกู้ 3 ชุดปีนี้

11 มี.ค. 2567 | 05:38 น.

MICRO กางแผนปี 67 เน้นการดูแลสภาพคล่องและรักษาพอร์ตลูกหนี้ที่ดีไว้ อวดกระแสเงินสดแข็งแกร่งกว่า 426 ล้านบาท พร้อมไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้ 3 รุ่น คือ เดือนเมษายน 2567 นี้ จำนวน 321.1 ล้านบาท และในเดือนตุลาคมปีนี้อีกจำนวน 762.1 ล้านบาท

นายวิศาลท์ บูรณสันติกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO เปิดเผยว่า ภาพรวมรถบรรทุกมือสองในปี 2567 มองว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะยังกระทบถึงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยแผนธุรกิจของ MICRO ในปีนี้หลักๆ ยังคงเน้นการดูแลสภาพคล่องและรักษาพอร์ตลูกหนี้ที่ดีไว้ 

โดยในปี 2567 บริษัทยังคงสานต่อกลยุทธ์ในการเน้นการดูแลสภาพคล่องเป็นหัวใจสำคัญ ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งกว่า 426 ล้านบาท และมีวงเงินธนาคารที่สามารถเบิกได้อีกราว 1,000 ล้านบาท กระแสเงินสดของบริษัทเหลือค่อนข้างเยอะ เพราะปีที่ผ่านมาบริษัทเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ

ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้ 3 รุ่น คือ เดือนเมษายน 2567 นี้ จำนวน 321.1 ล้านบาท และในเดือนตุลาคมปีนี้อีกจำนวน 762.1 ล้านบาท ซึ่งในปี 66 ที่ผ่านมา บริษัทได้ไถ่ถอนหุ้นกู้ MICRO23OA จำนวน 349.3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ได้ตามกำหนด ซึ่งเป็นแหล่งเงินจากสภาพคล่องคงเหลือของบริษัทเอง โดยไม่ได้ออกหุ้นกู้ชุดใหม่มาไถ่ถอน หรือเบิกวงเงินจากธนาคารเพื่อชำระคืน เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอน

ในปี 2567 นี้ บริษัทพยายามมุ่งเน้นในการคัดกรองคุณภาพลูกหนี้ใหม่อย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวลากยาวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทั้งธุรกิจภาคการขนส่งและภาคก่อสร้าง ทำให้ภาพรวมของการใช้รถบรรทุกปรับตัวลดลง ซึ่ง MICRO ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 2/2565 และกลางไตรมาสที่ 1/2566 ที่มีการปรับนโยบายการอนุมัติสินเชื่อซึ่งส่งผลต่อยอดปล่อยสินเชื่อของทั้ง 2 ช่วงเวลา

รวมทั้งในช่วงต้นไตรมาส 1/2567 บริษัทได้มีการปรับนโยบายราคากลางรถบรรทุกลง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคารถบรรทุกมือสองได้รับแรงกดดันจากปริมาณงานที่ลดลง และจำนวนรถบรรทุกที่กลับมาอยู่ในตลาดรถมือสองมีจำนวนค่อนข้างมาก และเนื่องด้วยบริษัทไม่ได้เร่งการปล่อยสินเชื่อในเชิงปริมาณ จึงลดต้นทุนในด้านต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์

โดยในเดือนมีนาคม 2567 นี้ บริษัทได้มีการควบรวมสาขา 3 สาขา ได้แก่ รวมสาขาสมุทรปราการ มาอยู่ที่สาขาชลบุรี รวมสาขากรุงเทพฯ มาอยู่ที่จ.นครปฐม  และรวมสาขาชัยภูมิ มาอยู่กับสาขานครราชสีมา และปีนี้มีแผนจะควบรวมสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ให้เหลือ 19 สาขา จากเดิมมี 25 สาขา อย่างไรก็ดี หากภาวะเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติทางบริษัทสามารถกลับมาเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ที่ถูกควบรวมได้ในอนาคต ซึ่งสาขาส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นพื้นที่เช่าทำให้ไม่มีต้นทุนจมอยู่ในสาขา

สำหรับกลุ่มธุรกิจของบริษัทประกอบด้วย บริษัท ไมโครพลัสลิสซิ่ง จำกัด (MPLUS) ที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เน้นดีลเลอร์ที่คัดคุณภาพลูกหนี้ที่ดีให้กับบริษัท ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลต่อการลดลงของพอร์ตสินเชื่อบางส่วน แต่แลกกับคุณภาพของลูกค้า โดยคุณภาพหนี้ใหม่ในพอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของบริษัทดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2566 บริษัทได้เกิดจุด break-even point ขึ้นทั้งสองเดือน ทำให้คาดว่าผลกระทบของงบการเงิน MPLUS ต่องบการเงินรวมของ MICRO จะลดลง

ด้านบริษัท ไมโครอินชัวร์ โบรกเกอร์ จำกัด (MIB) ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิต วางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้กับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถบรรทุกมือสอง และรถจักรยานยนต์ โดยเน้นช่วยเหลือลูกค้าเก่าที่มีประวัติผ่อนชำระดี ให้สามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันกับบริษัทได้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้ลูกค้าในกรณีเกิดเหตุที่ไม่ได้คาดฝันขึ้น

ส่วนบริษัท ไมโคร ฟิน จำกัด (MFIN) ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อที่ไม่มีทะเบียนรถเป็นประกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้เริ่มปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมให้กับลูกค้าเก่าของบริษัท (Top-up) ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 และเริ่มปล่อยสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียน (Title Loan) ในช่วงต้นไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา โดยเน้นขยายจากฐานลูกค้าเดิมของ MICRO เป็นหลัก เพื่อเป็นการช่วยเหลือและรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมทั้งเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางให้กับบริษัท