ค่าเงินบาทปิดตลาดวันนี้ 2พ.ค. "แข็งค่า"ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับเงินเยน ส่วนฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยและพันธบัตร กรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.80-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ
เงินบาทแข็งค่ามาปิดตลาดที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดในประเทศเมื่อ 30 เม.ย. ที่ 37.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับเงินเยน (ซึ่งแข็งค่าขึ้นตามสัญญาณการเข้าแทรกแซงเพื่อสกัดการอ่อนค่าของเงินเยนโดยทางการญี่ปุ่น) และสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าจากท่าทีของประธานเฟดหลังผลการประชุม FOMC ล่าสุด
ซึ่งระบุว่า ไม่น่าจะมีโอกาสที่เฟดจะกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก โดยเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อปรับตัวลงไปอยู่ในระดับที่เฟดควบคุมได้ นอกจากนี้ Sentiment ของเงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนแอลงจากการที่เฟดสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการประกาศรายละเอียดของกระบวนการชะลอการลดงบดุลในการประชุมรอบนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหุ้นไทย 2,205 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทยต่อเนื่องที่ 1,679 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -28.44 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -25.21 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.80-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนและราคาทองคำในตลาดโลก ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. ของอังกฤษ และสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนี ISM ภาคบริการเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ