4 กลยุทธ์แสนสิริ ฝ่าคลื่น COVIC-19 ดิสรัปชัน

29 เม.ย. 2563 | 04:33 น.

หัวเรือใหญ่ บมจ.แสนสิริ เผย 4 กลยุทธ์ เอาตัวรอด สร้างยอดขายพุ่งสวนตลาด ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมส่ง 5 New Normol ด้านการอยู่อาศัยใหม่ เขย่าตลาดอสังหาฯ

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบให้กับทุกกลุ่มธุรกิจ แม้แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์เอง  คาดอาจทำให้งบกระแสเงินสดของแต่ละบริษัทลดต่ำลง เพราะยอดขาย ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน โควิด-19 เปรียบเสมือนตัวเร่งปฏิกิริยาสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคธุรกิจและภาคเอกชน ในธุรกิจอสังหาฯ แสนสิริปรับตัวรับมือกับการแพร่ระบาดและเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งการทำตลาดแบบ Speed to Market, ให้ความสำคัญกับสภาพคล่องของ Cash Flow ตลอดจนรักษาสมดุลของ 4 เสาของแสนสิริ ดูแลลูกค้าผ่าน Sansiri Care เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอุ่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยและเป็น Top of Mind Brand ของลูกค้า พร้อมช่วยเหลือพนักงานและสังคมผ่าน Sansiri Care Relief Fund และ Sansiri Care for All แม้มีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะกลับส่สภาวะปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี แต่แสนสิริลงมือแล้วตั้งแต่วันนี้ 

4 กลยุทธ์แสนสิริ ฝ่าคลื่น COVIC-19 ดิสรัปชัน

" อสังหาฯ กับตัวเลขจีดีพีเศรษฐกิจมักไปด้วยกัน ปีนี้คาดการณ์แนวโน้มจีดีพีไม่ดีมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม มุมมองและการดำเนินงานของบริษัทเป็นเรื่องสำคัญกว่า ยิ่งปรับตัวเร็ว แอคชั่นเร็ว จะช่วยให้บริษัทสามารถเอาตัวรอดได้มากขึ้น  เราเองทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด กลยุทธ์ใดที่สามารถสร้างยอดขาย นำเงินเข้าบริษัทได้ ต้องทำ ยอมรับ ลด แลก จ่าย แถม เต็มที่ จึงทำให้ช่วงไตรมาสแรก บริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 1,100 ล้านบาท ยอดโอนฯอีก 9,000 ล้านบาท " นายอภิชาติ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท ตั้งเป้าหมายยอดขายในช่วงไตรมาสสอง ที่ 1,200 ล้านบาท

4 กลยุทธ์แสนสิริ ฝ่าคลื่น COVIC-19 ดิสรัปชัน

นอกจากนี้บริษัทยังยกระดับมาตรฐานของบริษัทฯ สู่ “The New Normal for Sansiri Living” กับ 5 มิติแห่งอนาคต และสร้างปรากฎการณ์ใหม่ของวงการอสังหาฯไทย ทั้งการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาโครงการอสังหาฯ และบริการหลังการขาย เพื่อดูแลครอบครัวแสนสิริตั้งแต่วันนี้ ก่อนการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19

New Normal ด้านการดูแลโครงการและบริการ ยกระดับความเข้มงวดด้านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค รวมถึงตรวจวัดไข้ทั้งพนักงานและลูกบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้

New Normal ด้านเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย เติมเต็มประสบการณ์แบบลดการสัมผัส (Touchless Journey) ความใส่ใจด้านความสะอาดและถูกสุขอนามัย

New Normal ด้าน Waste Management เพิ่มมาตรการจัดการขยะติดเชื้อจากหน้ากากอนามัยที่ปลอดภัย และวางระบบจัดการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จาก Food Delivery หรือ Online Shopping ที่สูงขึ้น

New Normal ด้านการออกแบบและพัฒนาโครงการ ยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิต สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบลดการสัมผัส พร้อมผสานการ Work Anywhere, Anytime และทุกไลฟ์สไตล์การพักผ่อนอย่างลงตัว

New Normal ด้านความปลอดภัยในการอยู่อาศัย กับ LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ดูแลความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจตลอดการอยู่อาศัยของลูกบ้าน

“ขณะที่แนวคิด ‘New Normal’ ได้รับการตีความที่หลากหลาย แต่วันนี้ แสนสิริ ลงมือศึกษาอย่างจริงจัง และทำอนาคตให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม นำร่องยกระดับมาตรฐาน ‘เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101’ สู่ New Normal ของการอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของครอบครัวแสนสิริ สะท้อนทุกมิติของ ‘The New Normal for Sansiri Living’ เริ่มจากทางเข้าโครงการ ส่วนกลาง จนถึงห้องพัก” นายอภิชาติ กล่าว
4 กลยุทธ์แสนสิริ ฝ่าคลื่น COVIC-19 ดิสรัปชัน

4 กลยุทธ์แสนสิริ ฝ่าคลื่น COVIC-19 ดิสรัปชัน

ด้าน นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิรินิยามที่อยู่อาศัยในแบบฉบับ ‘The New Normal for Sansiri Living’ และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปอย่างถาวร เราคาดการณ์ว่า ต่อไปนี้หลายคนจะใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น และเชื่อมั่นว่า ‘Homes for your Peace of Mind’ ยกบ้านเป็นที่ที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ยิ่งไปกว่านั้น บ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบจะไม่เป็นเพียงพื้นที่พักผ่อนอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะยังช่วยส่งเสริม ‘Productivity’ และรองรับวิถีการทำงานแบบ Work Anywhere, Anytime ทั้งนี้ เราจะพบกับนิยามใหม่ของแนวคิด Sharing Economy เพราะทุกการออกแบบพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน และคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น Social Distancing ตลอดจนเสริมการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางก่อนลูกบ้านเข้าใช้บริการ ขณะเดียวกัน การอยู่อาศัยในคอมมูนิตี้ของแสนสิริมุ่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบ ‘Touchless’ ลดการสัมผัสและลดโอกาสการติดเชื้อ พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ‘Security and Safety’ เพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัย เมื่อลูกบ้านใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น”  

4 กลยุทธ์แสนสิริ ฝ่าคลื่น COVIC-19 ดิสรัปชัน

แสนสิรินำเสนอ New Normal ของการอยู่อาศัยเพื่อสุขอนามัยสูงสุดของครอบครัวแสนสิริ ต่อยอดความสมบูรณ์แบบของเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 นำร่องติดตั้งเทคโนโลยีเสริม สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกบ้านที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความสะอาดมาเป็นอันดับหนึ่ง เริ่มต้นจากทางเข้าโครงการ ด้วยการติดตั้งระบบ Visitor Management System (VMS) และระบบการลงทะเบียนด้วยการสแกนหลักฐานแสดงตนเพื่อเข้า-ออกโครงการ และบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ, ติดตั้งประตูอัตโนมัติทางเข้าหลัก 5 จุด ลดการสัมผัส และคัดกรองที่จุดเชื่อมต่อจากภายนอกสู่ภายในอาคาร, ใช้ระบบฆ่าเชื้อ ด้วยเทคโนโลยี UV บนพัสดุ ก่อนส่งมอบให้ลูกบ้านผ่าน Smart Locker, ติดตั้งเครื่องปล่อยแอลกอฮอล์อัตโนมัติในพื้นที่ส่วนกลางและลิฟต์ รวมทั้งเครื่องปล่อยโฟมอัตโนมัติและเครื่องปล่อยน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับการเช็ดฝารองนั่งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำส่วนกลาง

“เราให้ความสำคัญสูงสุดด้านคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของผู้อยู่อาศัย ทั้งความสะอาดปราศจากเชี้อโรคและครอบคลุมไปถึงการมีอากาศบริสุทธ์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สะอาดและน่าอยู่ ติดตั้งระบบ UVC ในเครื่องปรับอากาศของพื้นที่ส่วนกลางของเดอะไลน์ สุขุมวิท 101 จาก Steril Aire นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีความเข้มรังสีสูงที่สามารถทำลายเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา และเป็นระบบที่ได้รับรับรองโดยมาตรฐานงานระบบวิศวกรรมของสมาคมวิศวกรการทำความร้อนความเย็นและการปรับอากาศแห่งสหรัฐอเมริกา (ASHRAE) โดยระบบดังกล่าวมีการใช้ในสถานที่สำคัญอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งสถานพยาบาล อุตสาหกรรมการผลิตยาหรืออาหาร โรงแรม และในประเทศไทย ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดีและโรงแรม St. Regis” นายปิติ กล่าว