หุ้นรพ.คึก รับคลายล็อกเฟส 5

02 ก.ค. 2563 | 00:05 น.

โบรกเผยคลายมาตรการ Lockdown เฟส 5 อนุญาตต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลในไทย หนุนกลุ่มโรงพยาบาลคึกคัก คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง จากที่เริ่มมีมาตรการ Lockdown ตั้งแต่กลาง เดือนมีนาคม 2563 เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown จนถึงล่าสุดปลดล็อคระยะที่ 5 โดยเฉพาะการอนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยที่มีความจำเป็นต้องเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย เข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ทำให้หุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์อย่างกลุ่มหุ้นโรงพยาบาลโรงพยาบาล เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมามีการปิดประเทศ ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นกลุ่มเข้ามารักษาพยาบาลหดตัวลง 

นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ(ประเทศไทย)จำกัดเปิดเผยว่า กลุ่มโรงพยาบาลมีแนวโน้มดีขึ้นจากโอกาสกลับมาเปิดบริการผู้ป่วยต่างชาติ หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์
โควิด-19 (ศบค.)อาจพิจารณาให้ผู้ป่วยต่างชาติสามารถเดินทางมารักษาตัวในประเทศไทย โดยศบค.ระบุว่า มีชาวต่างชาติราว 50,000 รายที่อาจเดินทางเข้ามาไทยภายใต้การผ่อนคลายรอบนี้ ซึ่งมีชาวต่างชาติประมาณ 30,000 รายที่คาดว่า จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แบบเพื่อการรักษาพยาบาล โดยชาวต่างชาติกลุ่มนี้ได้ลงทะเบียนที่จะเดินทางเข้ามาในไทยและยอมรับการกักตัว 14 วัน

หุ้นรพ.คึก รับคลายล็อกเฟส 5

อย่างไรก็ตามคาดว่า จะเป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาล หลังจากที่มีการใช้มาตรการ Lockdown งดรับผู้ป่วยที่บินเข้ามาใช้บริการมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 ของโรงพยาบาลที่มีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งผลกระทบที่เกิดกับแต่ละโรงพยาบาลจะแตกต่างกันไปตามสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ โดยจะอยู่ในช่วง 10-60% คือ BH 65%, BDMS 29%, BCH 11% และ EKH 10% 

นอกจากนั้นยังไม่กังวลต่อสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในบางประเทศที่อัตราการติดเชื้อรายวันตํ่ากว่า 100 รายในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา รวมถึงประเทศในกลุ่ม CLMV, จีน, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่สหรัฐ, ประเทศในยุโรป และตะวันออกกลาง ยังมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ คาดว่าไทยจะมีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพิ่มอีก และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2563 ไปถึงปี 2564

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้มองว่า โรงพยาบาลที่มีรายรับจากผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศมีแนวโน้มน่าตื่นเต้นมากขึ้นจากแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 4 รวมถึงจะเห็นพัฒนาการด้านบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ของหลายๆ ประเทศในปี 2564 ขณะที่ ผลกระทบด้านลบจากโรคระบาดจะลดลงจากการมีการใช้มาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ และสามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จ

นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)จำกัด ระบุว่า กรณีที่ BDMS ร่วมกับ PING AN HEALTH จากจีนนำเสนอแนวทางการรักษาและบริการสุขภาพในด้านต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้า PING AN HEALTH ในจีน ประเมินว่าจะมีลูกค้าชาวจีนที่ทำประกันของ PING AN HEALTH จะเข้ามารับบริการรักษาโรคมะเร็ง และศัลยกรรมกระดูกอย่างน้อย 1,000-4,000 คนต่อปี

“ช่วงแรกของความร่วมมือ PING AN HEALTH จะเริ่มทำการตลาดเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดย BDMS คาดหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างรายได้เข้ามาปีละ 1,000-2,000 ล้านบาท หรือประมาณ 1-2% ของรายได้ในปี 2562 ภายใต้สถาน การณ์ปกติ”

ทั้งนี้ ก่อนสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กลุ่ม BDMS มีสัดส่วนรายได้มาจากคนไข้ไทย 70% ของรายได้รวม ส่วนอีก 30% จากคนไข้ต่างชาติ ซึ่งในส่วนนี้เป็นชาวจีนประมาณ 1-2% คิดเป็นอันดับ 4 จากอันดับ 1 เป็นคนไข้ตะวันออกกลาง, อันดับ 2 คนไข้ญี่ปุ่น และอันดับ 3 คนไข้เมียนมา โดยผลดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะการผ่อนคลาย Lockdown และถ้ามีการเปิดให้บินข้ามประเทศได้ คาดว่ากลุ่มแรกๆ ที่จะบินเข้ามาคือ กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ, Medical Tourism, กลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่มบุคคลสำคัญต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีกับโรงพยาบาล  

 

หน้า 14  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,588 วันที่ 2 - 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563