รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล. โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 และสำนักก่อสร้างสะพาน ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 304 สาย ฉะเชิงเทรา – ต.เขาหินซ้อน ตอน อ.พนมสารคาม – ต.เขาหินซ้อน รวมสะพานข้ามแยกทางหลวงหมายเลข 319 (ถนนสุวินทวงศ์) พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ กม.102+500 – กม.126+000 ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร งบโครงการก่อสร้างประมาณ 2,314 ล้านบาท ปัจจุบันการก่อสร้าง คืบหน้ากว่า 60% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคมปี 2565 ทั้งนี้มีบางช่วงที่ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง
สำหรับการก่อสร้างขยายทางหลวงสายดังกล่าว โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ระหว่าง กม.102+500 – กม.113+000 ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และตอนที่ 2 ระหว่าง กม. 113+000 – 126+000 ระยะทาง 13 กิโลเมตร ก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษจากเดิม 4 ช่องจราจรเป็น 6 - 7 ช่องจราจร ผิวทางคอนกรีต กว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้างข้างละ 1.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้างข้างละ 2.50 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบกดร่อง (DEPRESSED MEDIAN) สลับกับเกาะกลางแบบยก (RAISED MEDIAN) กว้างประมาณ 13 เมตร สำหรับในพื้นที่ชุมชนออกแบบเป็น 6 ช่องจราจร กว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (RAISED MEDIAN) กว้าง 5.10 เมตร มีทางบริการขนาด 2 ช่องจราจร กว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร พร้อมงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตอัดแรง 3 แห่ง สะพานลอยคนเดินข้าม 2 แห่ง และติดตั้ง ไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยพัฒนาโครงข่ายทางหลวงให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทราเป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่อยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (Eastern Economic Corridor Development) ทั้งนี้ด้วยศักยภาพของพื้นที่ และความพร้อมต่างๆ จึงมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สูงขึ้น โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 จึงเป็นอีกหนึ่งในโครงการที่กรมทางหลวงเล็งเห็นความจำเป็นที่จะดำเนินการก่อสร้างใหม่ เพื่อให้มีความสะดวกและปลอดภัยเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เส้นทาง หากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการคมนาคมขนส่งบนโครงข่ายทางหลวงที่สำคัญของประเทศ แก้ไขปัญหาการจราจรและรองรับการจราจรที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต ช่วยส่งเสริมศักยภาพการกระจายความเจริญทางด้านเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หรือ EEC ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง