หุ้นตกก็แค่เรื่องเดิมๆ ธรรมดาๆ

18 ก.ย. 2559 | 13:00 น.
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นหุ้นตกหนักๆ ไปอีก 33 จุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน บวกกับที่ตกมาก่อนหน้า 2 ระลอก รวมๆ สิบกว่าวันหุ้นตกไปแล้วเป็นร้อยจุด เห็นข่าวแบบนี้ไม่สบายใจเลย ความจริงแล้วไม่เห็นจะมีอะไรที่น่ากังวลใจ เพียงแค่หุ้นปรับฐานทำกำไรตุนไว้บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่ธรรมดาก็ตรงที่คนเล่นหุ้นคนไทยมักจะมีข่าวลือในเรื่องแปลกๆ ที่คนไทยคนไหนก็ไม่สามารถตรวจสอบข่าวได้ว่า ข่าวนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ได้แต่ลือกันเป็นตุเป็นตะ และลือกันแบบนี้มาเป็นระลอกเช่นกัน

พอมองกระดานหุ้นต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียช่วงต้นสัปดาห์นี้ ก็กลายเป็น "ผีซ้ำด้ำพลอย" เพราะตลาดหุ้นต่างๆ ตกกันระนาว ที่ตกก็เพราะเมื่อศุกร์ที่แล้วตลาดหุ้นอเมริกันตกลงไป 2% ดูท่าจะรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแหงๆ แต่จริงๆ ก็ยังไม่มีใครสรุปได้หรอกว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะการประชุมเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 20-21 กันยายน 2559 หรือกลางสัปดาห์หน้านู่น

ช่วงนี้ก็มีเพียงแต่ซุ่มเสียงของธนาคารกลางสาขาต่างๆ ออกมาพูดถึงแนวโน้มหรือความเห็นของตนเองให้ฟังเท่านั้น และความเห็นเหล่านี้ก็มีผลต่อตลาด ทั้งตลาดซื้อขายล่วงหน้า ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน เรียกว่ามีผลต่อตลาดเงินและตลาดทุน รวมไปจนถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย แต่จะชี้ขาดจริงๆ ก็ต้องฟังวันประชุมเฟดซึ่งมีกรรมการนโยบายการเงินทั้งสิ้น 12 คนนั่นล่ะครับ ...แล้วเราก็เห็นบ่อยครั้งที่เฟดออกมาชี้ขาดก็ไม่เป็นไปตามที่คิด ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแวดวงตลาดหุ้นไม่ใช่หรือ ? นี่ผมถือว่าเป็นเหตุการณ์ปรกติธรรมดา และดูเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ด้วย

ส่วนเรื่องที่ดูไม่ธรรมดาไม่ใช่เรื่องแวดวงหุ้น แต่เป็นเรื่องวงการน้ำมันครับ การประชุม G20 ที่ประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้มีการหารือแบบทวิภาคีระหว่างรัสเซียกับซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนำมาซึ่งข่าวความตกลงด้านปิโตรเลียม โดยรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของรัสเซีย คือ นายอเล็กซานเดอร์ โนแวค บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รัสเซียและซาอุดีอาระเบียร่วมกันเป็นพันธมิตรด้านพลังงาน การคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะช่วยหนุนตลาดน้ำมันดิบ และว่าทั้งสองฝ่ายมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันระดับสูง ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียบอกว่า ซาอุดีอาระเบียจะตกลงร่วมมือกับรัสเซียเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก นอกจากนี้รองมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียได้กล่าวกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดี รัสเซียว่า ความร่วมมือของทั้งสองประเทศจะนำผลดีมาสู่ตลาดน้ำมัน

ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่ารัสเซียเป็นประเทศนอกกลุ่มโอเปก ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มโอเปก และสมาชิกกลุ่มโอเปกจะมีการประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการที่ประเทศแอลจีเรียในวันที่ 26-28 กันยายนศกนี้ การที่ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ 2 รายจับมือกันได้ หรือตกลงกันได้ว่าจะจำกัดปริมาณการผลิต ย่อมจะทำให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ และอาจปรับตัวสู่ความมีเสถียรภาพมากขึ้นในวงการผู้ผลิตและผู้ค้าน้ำมันในตลาดโลก

นี่ถ้าหากความตกลงกันนี้เกิดผลจริงในภาคปฏิบัติ ผมว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันและส่งออกน้ำมันเป็นรายได้หลักคงดีใจกันถ้วนหน้าที่สามารถลืมตาอ้าปากกันได้อีกครั้ง หลังราคาน้ำมันตกต่ำมายาวนาน โดยเฉพาะประเทศอิหร่านก็สบายไปด้วย เพราะอิหร่านทุกวันนี้ผลิตน้ำมันส่งออกได้วันละ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน และยังคงเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล/วันซึ่งเป็นระดับเดิมที่เคยส่งออกก่อนจะถูกประกาศคว่ำบาตร ครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559