ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบมอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี-บ้านพุน้ำร้อน

06 ก.ย. 2559 | 06:55 น.
วันนี้(6 ก.ย.59)  พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายธาวิน อินทร์จำนงค์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายกาญจนบุรี-ชายแดนไทย/พม่า (บ้านพุน้ำร้อน)  ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้าน ป้องกันปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน

พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์  ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยถึงการลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมาครั้งนี้ว่า  สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ได้ร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายกาญจนบุรี-ชายแดนไทย/พม่า (บ้านพุน้ำร้อน) โดยโครงการดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่ทั้งสิ้นจำนวน 5 เส้นทาง  และพบว่ามี 2 เส้นทางที่มีความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง คือ “แนวเส้นทางเลือกที่ 1” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ฝึกและผ่านเข้าไปในค่ายทหาร พื้นที่ชุมชน โดยครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบลในอำเภอเมือง (ตำบลศรีมงคล ตำบลสิงห์ ตำบลวังด้ง ตำบลลาดหญ้า ตำบลแก่งเสี้ยน และตำบลหนองขาว) และ“แนวเส้นทางเลือกที่ 4” ส่วนใหญ่เป็นเขตชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรม ครอบคลุมพื้นที่ 9 ตำบล ในอำเภอท่าม่วง (ตำบลศรีมงคล ตำบลบ้านเก่า ตำบลจระเข้เผือก ตำบลกลอนโด ตำบลรางสาลี่ ตำบลเขาน้อย ตำบลม่วงชุม ตำบลวังขนาย และตำบลวังศาลา)

พื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบ คือ พื้นที่ในแนวเส้นทางเลือกที่ 4  โดยได้รับทราบเบื้องต้นว่า ประชาชนในพื้นที่มีข้อกังวล 3 ประเด็นหลัก คือ 1) ผลกระทบความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ผ่านที่พักอาศัยจำนวนมาก และเป็นพื้นที่เกษตรกรรม  2) ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งขวางเส้นทางการระบายน้ำตามธรรมชาติ อาจส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ และทำให้เกิดน้ำท่วมเขตพื้นที่อาศัยและพื้นที่เกษตร และ 3) ผลกระทบด้านมลภาวะทางเสียง ฝุ่นละออง และมลภาวะทางอากาศ เนื่องจากแนวพัดของลมตะวันตกเฉียงใต้จะส่งผลต่อชาวจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ต้องมีการศึกษาเปรียบเทียบเส้นทางทั้งสองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าเส้นทางใดเหมาะสมและกระทบต่อส่วนรวมน้อยที่สุด

“ในการลงพื้นที่และประชุมหารือเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในวันนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางจังหวัดกาญจนบุรีโดยเฉพาะนายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง ผู้แทนกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ผู้แทนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ผู้แทนกองพลทหารราบที่ 9 ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 17 จังหวัดกาญจนบุรี และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มาประชุมหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน ดังนั้น จึงเร่งลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกประกอบการพิจารณาหาแนวทางแก้ไขกรณีร้องเรียนดังกล่าว โดยรับทราบข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่จะได้รับผลกระทบทั้งแนวเส้นทางที่ 1 และแนวเส้นทางที่ 4  ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายจะได้เลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในการคมนาคมขนส่ง และหาทางลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด โดยยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ” พลเอก วิทวัส กล่าว