ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังซาอุฯและรัสเซียตกลงที่จะร่วมมือเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบ

06 ก.ย. 2559 | 03:30 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 6 กันยายน 2559

+ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบ ซึ่งการตกลงระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในช่วงการประชุม G20 ที่ประเทศจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การคงกำลังการผลิตยังไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่จะนับเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะรวมในกลยุทธ์เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบ โดยการประชุมเพื่อหารือข้อตกลงที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. ปีนี้ โดยซาอุดิอาระเบียจะทำการโน้มน้าวกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปก (OPEC) ให้ปฏิบัติตาม

+ อย่างไรก็ดี รัสเซียให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันดิบในช่วง 50-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเป็นระดับราคาที่สมเหตุสมผลกับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากลยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศจะประสบความสำเร็จมากพอที่จะทำให้ตลาดน้ำมันดิบกลับสู่จุดสมดุล มิเช่นนั้นโลกคงต้องเผชิญกับราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำไปอีกนาน

+ อย่างไรก็ดี รัสเซียให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันดิบในช่วง 50-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเป็นระดับราคาที่สมเหตุสมผลกับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากลยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศจะประสบความสำเร็จมากพอที่จะทำให้ตลาดน้ำมันดิบกลับสู่จุดสมดุล มิเช่นนั้นโลกคงต้องเผชิญกับราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำไปอีกนาน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีการซื้อขายที่เบาบางในช่วงการประชุม APPEC ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์ ประกอบกับวันแรงงานในสหรัฐฯ ที่จะมาถึง ได้บ่งชี้ว่าฤดูกาลขับขี่ในสหรัฐฯ กำลังจะสิ้นสุดลง ทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงเบาบางลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นหลายแห่งทั่วโลกอยู่ในระหว่างการปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ความสามารถในการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเชียไปยังยุโรปยังคงเป็นไปได้ยาก

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ42-47เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง 

ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดยังคงอยู่ในระดับสูงและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 26 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 523.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 923,000 บาร์เรล

ความไม่แน่นอนในการร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมปลายเดือนนี้ (26-28 ก.ย.) เพื่อหารือสถานการณ์ตลาดและมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ มีโอกาสสูงมากขึ้นว่ากลุ่มผู้ผลิตจะไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นดังกล่าว ถึงแม้ว่าผู้ผลิตจะเข้าร่วมการประชุม แต่ยังคงไม่ได้มีมาตรการที่ชัดเจนในประเด็นดังกล่าว

ที่มา : ไทยออยล์