นายธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค บัวหลวงซีคิวริตี เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยตกสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นผลจากกระแสเงินลงทุนเริ่มชะลอตัวลง ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯปลายเดือนก.ย. นักลงทุนส่วนมากระมัดระวังและเลือกขายปรับพอร์ตเมื่อดัชนีหลุดกรอบแนวรับ 1530 จุดดังภาพ 1 ราคาหุ้นมูลค่าขนาดใหญ่เริ่มปรับตัวลง เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกสนับสนุนและมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายไม่ได้ถูกนัก หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ รวมถึงหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีดูอ่อนตัวอย่างมาก
เรามองว่าราคาหุ้นเหล่านี้จะยังมีปัจจัยลบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดต่ำลงมาอยู่ที่ 43 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องด้วยอุปทานน้ำมันล้นตลาด และภาวะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังแข็งค่าขึ้น ช่วงนี้แนะหลีกเลี่ยงหุ้นน้ำมันและปิโตรเคมีไปก่อนครับ อย่างไรก็ตามหุ้นที่อ้างอิงนโยบายรัฐบาลยังคงเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัสดุสร้าง นำโดย SCC กลุ่มขนส่ง AOT ขณะที่นักลงทุนเลือกลงทุนเป็นหุ้นรายตัว
ความกังวลต่อมาตรการการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯอาจส่งผลให้เกิดการขายทำกำไรในระยะสั้น แต่เราคาดว่ามาตรการผ่อนคลายของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นจะช่วยหนุนตลาดได้ในระยะกลาง โดยการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ก.ย. ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ ในวันที่ 21 ก.ย.ตลาดคาดหวังในเชิงบวกว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้น
มุมมองซื้อขายระยะสั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดหลุดกรอบแนวรับ Sideway ที่ 1530 จุด โดยเครื่องมือชี้วัดโมเมนตัมได้ลดลงต่อเนื่อง และสัญญาณ RSI แสดงลักษณะการเกิด Negative Divergence (ดัชนีขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ แต่เครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคไม่ได้ทำระดับสูงสุดด้วย) ชี้ว่าแรงหนุนตลาดอ่อนแรง กรณีค่า MACD ลงต่ำกว่าระดับศูนย์ บ่งชี้ถึงตลาดอาจเปลี่ยนเป็นรูปแบบขาลง เราจึงแนะนำให้ซื้อขายอย่างระมัดระวัง