รายงานข่าว เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 59 เวลา 14.00 น. จังหวัดระนอง นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดระนอง โดยเรียกหน่วยขึ้นตรง คือ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง , ตร.ทท. ตลอดจนเชิญผู้ว่าฯ นายอำเภอ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบูรณาการท่องเที่ยวในจังหวัดระนอง
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ระนองเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่สมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 และมีทรัพยากรธรรมชาติด้านการท่องเที่ยวที่ยังอุดมสมบูรณ์มาก นอกจากนั้นยังมีภูมิรัฐศาสตร์ที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าอีกด้วย
รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดการกระจายตัวในด้านเศรษฐกิจลงสู่ภูมิภาคต่างๆโดยเฉพาะจังหวัดที่มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมาย แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี
"เคยให้นโยบายไว้ว่าทุกจังหวัดควรจะต้องสร้าง Story หรือบอกเล่าให้กับเมืองของตนเอง โดยการมีส่วนร่วมจากภาคชุมชนและวันนี้ที่ระนองได้เริ่มขึ้นแล้ว"
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนองได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่เพื่อจัดการแสดงแสงสีเสียงโดยทำเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองระนองซึ่งต่อไปจะเป็นการแสดงโชว์ที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาชมก่อนเมื่อมาถึงระนอง
"การสร้างเรื่องราวครั้งนี้นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกโดยใช้แนวคิดว่านักแสดงทั้งหมดมาจากลูกหลานของคนในพื้นที่ซึ่งทำให้ได้รับการยอมรับความร่วมมือ และความภูมิใจของคนในท้องถิ่น"
นายพงษ์ภาณุ เผยว่าการมาตรวจราชการครั้งนี้ ตนได้มาดูความพร้อมด้านการท่องเที่ยวการค้าการลงทุน และ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
"เรื่องสำคัญในครั้งนี้คือ ผมเห็นความเข้มแข็งและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาคเอกชนไทย และ ภาคเอกชนพม่าในความร่วมมือกันในด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นวันนี้ผมจึงสั่งการให้กระทรวงฯทำ MOU กับกระทรวงกิจการโรงแรมและ
การท่องเที่ยวของประเทศพม่า โดยผมตั้งใจที่จะสร้างความเป็นพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้น และจะปั้นระนองให้เป็นเพชรเม็ดงามแห่งอาเซียน"
นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระนองมีสาธารณูปโภคที่พร้อมทุกด้านทั้ง สนามบินและ ท่าเรือ ในขณะที่พม่านั้นมีทรัพยากรธรรมชาติด้านการท่องเที่ยวอย่างมหาศาลแต่ยังขาดความพร้อมแทบในทุกๆด้าน
ดังนั้น กระทรวงฯ จึงมีหน้าที่และเป้าหมายที่ชัดเจนคือจะต้องสร้างความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศให้เกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ซึ่งผมเชื่อว่าทำได้และต้องทำทันที