ปลัดก.ท่องเที่ยวเร่งระนองผูกมิตรพม่าสร้างความร่วมมือ2ประเทศ

04 ก.ย. 2559 | 01:11 น.
รายงานข่าว เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 59 เวลา 14.00 น. จังหวัดระนอง นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์

ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดระนอง โดยเรียกหน่วยขึ้นตรง คือ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง , ตร.ทท. ตลอดจนเชิญผู้ว่าฯ นายอำเภอ เพื่อหารือเกี่ยวกับการบูรณาการท่องเที่ยวในจังหวัดระนอง

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ระนองเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่สมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 และมีทรัพยากรธรรมชาติด้านการท่องเที่ยวที่ยังอุดมสมบูรณ์มาก นอกจากนั้นยังมีภูมิรัฐศาสตร์ที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าอีกด้วย

รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดการกระจายตัวในด้านเศรษฐกิจลงสู่ภูมิภาคต่างๆโดยเฉพาะจังหวัดที่มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวมากมาย แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี

"เคยให้นโยบายไว้ว่าทุกจังหวัดควรจะต้องสร้าง Story หรือบอกเล่าให้กับเมืองของตนเอง โดยการมีส่วนร่วมจากภาคชุมชนและวันนี้ที่ระนองได้เริ่มขึ้นแล้ว"

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนองได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่เพื่อจัดการแสดงแสงสีเสียงโดยทำเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองระนองซึ่งต่อไปจะเป็นการแสดงโชว์ที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาชมก่อนเมื่อมาถึงระนอง

"การสร้างเรื่องราวครั้งนี้นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกโดยใช้แนวคิดว่านักแสดงทั้งหมดมาจากลูกหลานของคนในพื้นที่ซึ่งทำให้ได้รับการยอมรับความร่วมมือ และความภูมิใจของคนในท้องถิ่น"

นายพงษ์ภาณุ เผยว่าการมาตรวจราชการครั้งนี้ ตนได้มาดูความพร้อมด้านการท่องเที่ยวการค้าการลงทุน และ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน

"เรื่องสำคัญในครั้งนี้คือ ผมเห็นความเข้มแข็งและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาคเอกชนไทย และ ภาคเอกชนพม่าในความร่วมมือกันในด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นวันนี้ผมจึงสั่งการให้กระทรวงฯทำ MOU กับกระทรวงกิจการโรงแรมและ
การท่องเที่ยวของประเทศพม่า โดยผมตั้งใจที่จะสร้างความเป็นพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้น และจะปั้นระนองให้เป็นเพชรเม็ดงามแห่งอาเซียน"

นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระนองมีสาธารณูปโภคที่พร้อมทุกด้านทั้ง สนามบินและ ท่าเรือ ในขณะที่พม่านั้นมีทรัพยากรธรรมชาติด้านการท่องเที่ยวอย่างมหาศาลแต่ยังขาดความพร้อมแทบในทุกๆด้าน

ดังนั้น กระทรวงฯ จึงมีหน้าที่และเป้าหมายที่ชัดเจนคือจะต้องสร้างความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศให้เกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้ซึ่งผมเชื่อว่าทำได้และต้องทำทันที