ดีแทคไตรเน็ตชี้แจงกรณีลูกค้าอ้างทำงานที่ฟิลิปปินส์ไม่เคยเปิดเบอร์ แต่มียอดเรียกชำระค่าบริการ 4 แสนกว่าบาท

02 ก.ย. 2559 | 06:57 น.
ตามที่สำนักงาน กสทช. รายงานว่ามีลูกค้ามาร้องเรียนให้ ตรวจสอบกรณีไปทำงานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ อ้างว่าไม่เคยเปิดเบอร์กับ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และช่วงเวลาที่มีค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่ฟิลิปปินส์ แต่มีการค้างชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทเป็นจำนวนเงินกว่า 4 แสนบาท โดยร้องเรียนให้ทางสำนักงาน กสทช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหมายเลขดังกล่าว

บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ขอชี้แจงตามรายละเอียด ดังนี้

1. กรณีที่ลูกค้าอ้างว่าไม่เคยจดทะเบียนเปิดเบอร์กับ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด นั้น บริษัทฯ พบว่ามีหลักฐานยืนยันว่าลูกค้ามาจดทะเบียนจริง ทั้ง 2 เลขหมาย คือ 094-994-5529 และ 094-994-5592 โดยใช้หลักฐานเป็นบัตรประชาชนใน การจดทะเบียน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ที่สำนักงานดีแทค เดอะมอลล์ บางกะปิ เจ้าหน้าที่ดีแทคได้ทำการจดทะเบี ยนถูกต้องตามกระบวนการขั้นตอนของบริษัทฯ โดยขอยืนยันว่าผู้มาเปิดใช้บริการได้นำบัตรประชาชนตัวจริงมายื่นแสดงกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอจดทะ เบียนเบอร์ดังกล่าว

2. สำหรับค่าใช้จ่ายที่ถูกเรียกเก็บตามที่กล่าวอ้างนั้น จากการตรวจสอบบันทึกการใช้งานทั้ง 2 เลขหมาย ซึ่งลูกค้าเป็นผู้จดทะเบียนเปิด บริการนั้น  พบว่าเป็นค่าใช้จ่ายจากการใช้งานบริการข้ามแดนอัตโนมัติ (โรมมิ่ง)ในประเทศฟิลิปปินส์ และการติดต่อกลับมาประเทศไทย โดยมีการเรียกเก็บค่าบริการรายเ ดือนในการใช้งานที่เกิดขึ้ นตามหลักฐานเจ้าของหมายเลขตามปก ติ  ทั้งนี้ในขณะที่ลูกค้ากำลังมีการใช้งานโรมมิ่งนั้น  บริษัทฯ ตรวจพบในชั้นแรกว่ามีค่าบริการที่ สูงเกิดขึ้นจากการใช้งานทั้ง2 เลขหมายประมาณ 40,000 บาท   บริษัทฯ จึงได้ติดต่อแจ้งเตือนไปยังลูกค้ าเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับอั ตราค่าบริการ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ หากบริษัทฯ พบว่ามีการใช้งานและมีค่าใช้จ่า ยที่สูงต่อเนื่อง แต่ลูกค้ายืนยันที่จะขอใช้บริกา รโรมมิ่งต่อไป โดยไม่ต้องการให้บริษัทฯ ทำการระงับบริการ โดยลูกค้าแจ้งว่าอยู่ต่างประเทศ และรับทราบค่าบริการและค่าใช้จ่ ายทุกอย่างที่เกิดขึ้ นเพราะจำเป็นต้องใช้งาน

3. ลูกค้าได้มีการใช้งานต่อเนื่องและรับทราบวิธีการเปิด-ปิด ระงับสัญญาณโรมมิ่งที่สามารถทำได้ด้วยตนเองผ่านมือถือที่ใช้งาน โดยลูกค้ามีพฤติกรรมเปิด-ปิดระงับสัญญาณโรมมิ่งด้วยตนเองอีกหลาย ครั้ง และมีการใช้งานเลขหมายดังกล่าวจนมีค่าบริการเพิ่มถึงประมาณ 4 แสนบาท บริษัทฯ จึงทำการระงับบริการ ต่อมาลูกค้าได้ติดต่อมาแจ้งว่าจะขอชำระค่าบริการทั้งหมดในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

4. อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ ซึ่งลูกค้าได้ปฏิเสธการชำระหนี้ มาโดยตลอด บริษัทฯ จึงดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหา ยในทางแพ่งต่อศาลจังหวัดมุกดาหา ร เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 และศาลได้กำหนดนัดวันสืบพยานในวั นที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559 ที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยินดีและพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับ ทางสำนักงาน กสทช. จากกรณีดังกล่าว ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความถูกต้อง และหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป