‘บิ๊กตู่’ห้ามอปท.ทัวร์ดูงานฉุดโรงแรมอีสานวูบ

06 ก.ย. 2559 | 03:00 น.
โรงแรมอีสานบนนั่งเหงา ลูกค้าเข้าพักลดลงหน้าใจหายหลัง "บิ๊กตู่" มีคำสั่ง ห้ามอปท. จัดทัวร์ทัศนศึกษาดูงานต่างพื้นที่ ผสมโรงเศรษฐกิจซบ นักท่องเที่ยวประหยัดค่าใช้จ่าย เดินทางในลักษณะครอบครัว ไม่เดินทางเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ ด้านสมาคมโรงแรมไทยภาคอีสานตอนบน รับยอดจองลดลง 10-20%

นายสุทัศน์ แพรสุรินทร์ เลขาธิการสมาคมโรงแรมไทย ภาคอีสานตอนบน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้โรงแรมที่เป็นสมาชิกของสมาคม 11 จังหวัด จำนวน 21 แห่งได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชะลอเข้าใช้บริการที่พักในพื้นที่ โดยเฉพาะในรูปแบบประชุมสัมมนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)จากนอกพื้นที่ ทั้งนี้จากรายงานสภาวะในไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2559 (กรกฎาคม-กันยายน) พบว่าธุรกิจโรงแรมในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียงมีอัตราจองเพื่อเข้าพักลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 10-20% ทำให้ธุรกิจโรงแรมเข้าสู่สภาวะซบเซา

อย่างไรก็ดีต้องเข้าใจว่าตลาดโรงแรมของภาคอีสานจะขึ้นอยู่กับตลาดประชุมสัมมนาเป็นหลัก ไม่ได้เป็นพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลักเหมือนกับภาคใต้ หรือภาคเหนือ ซึ่งการจัดการประชุมสัมมนาของหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ยังมีการจัดตามปกติอยู่ แต่ที่ขาดหายไปเลยได้แก่ อปท.นอกพื้นที่ที่ไม่มีการจัดเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ เดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อทัศนศึกษาดูงาน โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน หรือไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณของแต่ละปี สาเหตุใหม่มาจากคำสั่งที่รัฐบาลชุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ห้ามไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ต่างๆเดินทางไปทำการทัศนศึกษาดูงาน หรือประชุมสัมมนาต่างพื้นที่เพื่อประหยัดงบประมาณดังกล่าว

เช่นเดียวกับในส่วนของนักท่องเที่ยวจร ก็ลดลงไปในอัตราที่ไล่เลี่ยหรือ เท่าๆกัน กรุ๊ปทัวร์จรก็ไม่มี แต่การเดินทางเข้าพักจะเป็นไปในลักษณะวอล์กอินในลักษณะของครอบครัวเดี่ยว หรือ อิสระ หรือกรุ๊ปขนาดเล็กๆ สาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้หัวเมืองท่องเที่ยวต้องหันไปรับกรุ๊ปทัวร์จีนมากขึ้นเพราะทัวร์จีนเป็นทัวร์ในรูปแบบที่มีการออกแบบสำเร็จมาจากต้นทาง หรือที่ผู้ประกอบการเรียกว่า "ทัวร์ศูนย์เหรียญ"

นายสุทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันจังหวัดอุดรธานีมีห้องพักไม่ถูกกฎหมายเกิดขึ้นมาก ทั้งเกสต์เฮาส์ อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต หรือแม้กระทั่งหอพัก ที่นำเอาห้องพักมาให้บริการรายวัน แม้ขณะนี้ทางราชการก็ออกประกาศให้ธุรกิจดังกล่าวนั้น เข้ามาขอยื่นจดทะเบียนกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม อย่างไรก็ดีกรณีดังกล่าวทางสมาคม ก็ได้ประสานงานกับทางจังหวัดและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ออกทำการสำรวจกิจการดังกล่าว เพื่อขอให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ล่าสุดจากการรวบรวมสถานที่พักและธุรกิจโรงแรม เกสต์เฮาส์ รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์และสถานบริการทุกประเภทในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีที่แจ้งจดทะเบียนธุรกิจถูกต้องเมื่อเดือนเมษายน 2559 มีจำนวน 204 แห่ง มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 3,766 ห้อง แยกเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี 7 แห่ง มีห้องพักรวม 1,317 ห้อง โดยมีโรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ของ บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวเพียงแห่งเดียว มีห้องพัก 259 ห้องของจังหวัด นอกจากนั้นเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว และเป็นโรงแรมในระดับที่ต่ำลงมา จนถึงเกสต์เฮาส์ รีสอร์ต ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอกและในพื้นที่อำเภอต่างๆ

นอกจากนี้นายสุทัศน์กล่าวอีกถึงปัญหาที่สมาคมโรงแรมไทย ภาคอีสานตอนบน ยังมีโรงแรมที่อยู่ในหลายพื้นที่ไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมว่า ก็อยากให้เป็นสมาชิกของสมาคม เพื่อให้สามารถต่อรองกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเชื่อมโยงในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน

"ข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจหลังจากที่สมาคมได้มีการสำรวจราคาค่าห้องพักของโรงแรมในภาคอีสานในระดับเดียวกันแต่ตั้งราคาค่าห้องพักแตกต่างกัน จากจุดนี้มองว่าเป็นข้อเสียของธุรกิจโรงแรม ที่ต่างคนต่างอยู่ตามลำพัง ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม เพราะต่างคนต่างก็แข่งขันกันและแย่งกันตั้งราคากันเอง ทำให้ธุรกิจโรงแรมทั้งระบบได้รับผลกระทบ" นายสุทัศน์กล่าวและว่า

ดังนั้นนักลงทุนหรือผู้ที่คิดว่าจะลงทุนทำธุรกิจโรงแรมในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีว่า ต้องตัดสินใจลงทุนสร้างกิจการที่มีระดับสูงกว่าโรงแรมทั้งหลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือต้องเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งขณะนี้ก็มีหนึ่งโครงการที่เตรียมการลงทุนคือบริษัทฉัตรชัย ดีเวลล็อปเม้นต์ จำกัด ส่วนโรงแรมที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว จะปรับปรุงรูปโฉมให้ทันสมัยหรือเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันเพื่อดึงดูดลูกค้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 4 - 7 กันยายน พ.ศ. 2559