ประกันภัยข้าวนาปียอดฉลุยเป็นประวัติศาสตร์กว่า 26 ล้านไร่

01 ก.ย. 2559 | 07:05 น.
ประกันภัยข้าวนาปียอดฉลุยเป็นประวัติศาสตร์กว่า 26 ล้านไร่ คปภ.ขานรับนโยบายรัฐบาล รุกช่วยเหลือชาวนากว่า 1.5 ล้านคน ค่าเบี้ยประกันภัยแตะ 2,600 ล้านบาทแล้ว “สุทธิพล”แนะเตรียมระบบเคลมรองรับให้ทั่วถึง

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวั นที่ 21 มิถุนายน 2559 เห็นชอบในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 โดยมีพื้นที่เป้าหมายในการเอาประกันภัย จำนวน 30 ล้านไร่ทั่วประเทศนั้น ในส่วนความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ. และในฐานะที่ตนได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการปฏิรูปการประกันภัยพืชผล  ซึ่งมี นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อดีตอธิบดีกรมการประกันภัย เป็นประธานคณะทำงานฯ ได้มีข้อเสนอไปยังสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งต่อมาได้เสนอต่อรัฐบาลให้ ประกาศการประกันภัยพืชผลเป็น “วาระแห่งชาติ” รวมทั้งเสนอให้มีการจั ดทำกฎหมายโดยเฉพาะเพื่อวางกรอบกติกาเกี่ยวกับการประกันภัยพืชผลอย่างเป็นระบบพร้อมเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายประกันภัยพืชผลระดับชาติและคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการประกันภัยพืชผลทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้วนั้น

ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลให้เป็นไปในเชิงรุกสำนักงาน คปภ.ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความรู้ และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในขณะเดียวกันเลขาธิการคปภ. ในฐานะนายทะเบียนประกันภัยได้ อนุมัติแบบกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 สำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

นอกจากนี้ สำนักงานคปภ.ยังได้ ลงพื้นที่ทั่วประเทศ และจัดทำโครงการอบรมความรู้ ประกันภัย (Training for the Trainers) เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภั ยและการบริหารความเสี่ยง จำนวน 8 ครั้ง ได้แก่ พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี พิษณุโลก เชียงราย และพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แก่วิทยากรเครือข่ายที่เข้ารั บการอบรมถึงกว่า 1,500 คน โดยวิทยากรเหล่านี้ได้ ขยายผลในการไปถ่ายทอดความรู้ให้ กับเกษตรกรในพื้นที่ให้เกิ ดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกั บการประกันภัยข้าวนาปีอย่างต่ อเนื่อง และเพื่อให้การประกันภัยข้ าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 เป็นไปตามเป้ าหมายและตอบสนองนโยบายรั ฐบาลในการส่งเสริมให้เกษตรกรจั ดการความเสี่ยงด้านการผลิตผ่ านการประกันภัยอย่างเป็ นระบบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้ นในช่วงโค้งสุดท้ายของการรั บทำประกันภัยข้าวนาปี เลขาธิการ คปภ. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ 100/54 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2559  กำชับให้ผู้อำนวยการ คปภ.ภาค/จังหวัด ดำเนินการประสานความร่วมมือกั บธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตรในพื้นที่เพื่อติ ดตามและส่งเสริมให้เกษตรกรจั ดทำประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ไว้

ทั้งนี้จากการดำเนินการในเชิงรุ กตามนโยบายของรั ฐบาลและจากความร่วมมือระหว่ างสำนักงาน คปภ.กับหลายภาคส่วนทั้งภาครั ฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทำให้ ยอดการประกันภัยข้าวนาปีในปีนี้ มียอดฉลุย โดยข้อมูลการรับประกันภัยข้าวนาปี ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2559 ปรากฏว่ามีเกษตรกรทำประกันภัยข้ าวนาปี รวมทั้งสิ้น 1,508,146 ราย มีพื้นที่เอาประกันภัย จำนวน  26.09 ล้านไร่  รวมค่าเบี้ยประกันภัยกว่า 2,609 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ที่มีการทำประกันภั ยข้าวนาปีสูงสุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉี ยงเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีการทำประกันภั ยข้าวนาปีสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ จังหวัดนครราชสีมา ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่เกษตรกรผู้ปลูกข้ าวมีความเชื่อมั่นในระบบประกั นภัยมีการทำประกันภัยข้าวนาปี เกินกว่าพื้นที่เป้าหมายที่ กำหนด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี  สระแก้ว และนครปฐม

“การทำประกันภัยข้าวนาปีในครั้ งนี้ แม้ว่าจะยังไม่ทะลุเป้าหมายที่ รัฐบาลกำหนดไว้ 30 ล้านไร่ โดยคิดเป็นร้อยละ 86.97 ของพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งอาจเป็นเพราะเพิ่งเปิดตั วโครงการไม่นานและมีช่ วงระยะเวลาการรับประกันภัยสั้น โดยพบว่าเกษตรกรบางพื้นที่ปลู กข้าวก่อนเริ่มโครงการรับประกั นภัยข้าวไปแล้ว แต่ยอดการทำประกันก็สูงถึง 26 เท่า ของการประกันภัยข้าวในปีที่แล้ว โดยเป็นยอดที่สูงที่สุดในประวั ติศาสตร์ของไทยตั้งแต่มีการรั บประกันภัยข้าว จึงนับว่าประสบความสำเร็จอย่ างสูง และเป็นการใช้ระบบประกันภัยช่ วยเหลือชาวนาในการบริหารความเสี่ ยงจากภัยธรรมชาติอย่างตรงจุ ดและมีประสิทธิภาพ จึงต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้ให้ ความสำคัญและสนับสนุนโครงการนี้ อย่างเต็มที่ และเชื่อว่าในปีต่อไปก็จะมี การปรับปรุงโครงการให้ดียิ่งขึ้ นๆต่อไป

อย่างไรก็ตามการที่มี เกษตรกรทำประกันภัยถึงกว่า 1.5 ล้านราย ก็หมายถึงว่าจะต้องเตรี ยมการรองรับบริการหลังการขาย หรือระบบการเคลมให้กั บเกษตรกรเหล่านี้ หากเกิดภัยตามเงื่อนไขที่ กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งในส่วนของสำนักงานคปภ.ได้ เตรียมการรองรับโดยมีการจัดตั้ งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้ านประกันภัยไว้แล้วในส่วนกลาง แต่เกรงว่าจะรองรับไม่เพียงพอจึ งได้ประสานงานกับทาง ธ.ก.ส. และสมาคมประกันวินาศภัยไทยให้ เตรียมระบบไว้รองรับให้ทั่วถึ งในส่วนภูมิภาคด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรที่ ทำประกันภัยได้รั บความสะดวกและเกิดความเชื่อมั่ นในระบบประกันภัย” ดร.สุทธิพล เลขาธิการ คปภ. กล่าวย้ำ

อนึ่งกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 สำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) มีอัตราเบี้ยประกันภัย 100 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ สามารถซื้อกรมธรรม์นี้ได้จนถึ งวันที่ 15 ธันวาคม 2559 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th