การสืบทอดกิจการถือว่ามีความสำคัญต่อธุรกิจครอบครัวมาก โดยเฉพาะในอาเซียนซึ่งธุรกิจสร้างขึ้นมาจากประเพณีที่แข็งแกร่งของครอบครัว และความรับผิดชอบที่ลึกซึ้งต่อครอบครัวที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อรักษาค่านิยมและความมั่งคั่งของครอบครัว โดยเจ้าของธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่เชื่อว่าทายาทรุ่นต่อไปจะสามารถเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวได้ และ ต่างมุ่งหวังให้สมาชิกในครอบครัวเป็นผู้บริหารธุรกิจครอบครัวต่อไป ซึ่งเมื่อ Deloitte Southeast Asia ("Deloitte") ร่วมกับ Business Families Institute @ Singapore Management University ได้ทำการสำรวจธุรกิจครอบครัว 83 รายในช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2013 จากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 6 ประเทศได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการสืบทอดกิจการพบว่าเมื่อแบ่งการพัฒนาในระยะต่างๆของกระบวนการจัดการสืบทอดกิจการออกเป็น 5 ระยะ ได้แก่
1) ระยะเริ่มต้น การแนะนำทายาทรุ่นต่อไปให้เข้าสู่ธุรกิจ
2) ระยะพัฒนา การฝึกอบรมทายาทรุ่นต่อไปให้ได้รับการศึกษา ประสบการณ์และการเปิดรับ
3) ระยะการคัดเลือก การคัดเลือกทายาทรุ่นต่อไปที่จะทำหน้าที่บริหารธุรกิจต่อไป
4) ระยะการถ่ายโอนกิจการ การถ่ายโอนอำนาจควบคุมและการบริหารให้กับทายาทเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอย่างเป็นระบบระเบียบ
5) ระยะการทบทวน การตรวจติดตามและทบทวนแผนการสืบทอดกิจการและเตรียมการสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ธุรกิจครอบครัวในอาเซียนส่วนใหญ่กำลังเข้าสู่ระยะสำคัญในการพัฒนาของพวกเขา ซึ่งต่างจากธุรกิจครอบครัวในสหรัฐอเมริกาที่คนหลายรุ่นประสบความสำเร็จในการถ่ายโอนกิจการไปแล้ว โดยหากเปรียบเทียบกันแล้วธุรกิจครอบครัวจำนวนมากในอาเซียนยังอยู่ในช่วงระยะแรกของวงจรชีวิตคือส่วนใหญ่อยู่ในรุ่นที่ 2 และ/หรือรุ่นที่ 3
[caption id="attachment_92814" align="aligncenter" width="700"]
Which stage of the succession planning process is your business family currently engaged in ?[/caption]
ดังนั้นธุรกิจครอบครัวในอาเซียนจึงกำลังเผชิญกับความท้าทายและข้อจำกัดที่เกี่ยวกับการจัดการสืบทอดกิจการของพวกเขาอยู่ โดยพบว่า 46% ของธุรกิจครอบครัวที่ทำการสำรวจ ระบุว่าพวกเขาอยู่ในระยะการพัฒนาในกระบวนการจัดการสืบทอดกิจการ ซึ่งจากข้อค้นพบนี้เมื่อทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบคำตอบที่มีผู้ตอบมากที่สุดในแต่ละประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์และไทย ก็พบว่า 60% ของธุรกิจครอบครัวในสิงค์โปรระบุว่าพวกเขาอยู่ในระยะการพัฒนา ขณะที่ 42% ของธุรกิจครอบครัวในไทยระบุว่ากำลังอยู่ในระยะการถ่ายโอนกิจการ และธุรกิจครอบครัวในอินโดนีเซียระบุว่ามีทั้งอยู่ในระยะการพัฒนาและระยะการถ่ายโอนกิจการ 35%เท่าๆกัน (ภาพที่ 1)
[caption id="attachment_92815" align="aligncenter" width="700"]
succession stages (by country)[/caption]
ซึ่งข้อค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจครอบครัวที่อายุกิจการน้อยกำลังทำความคุ้นเคยกับตัวเองในระยะการพัฒนาของกระบวนการจัดการสืบทอดกิจการอยู่ ในขณะที่ธุรกิจครอบครัวที่อายุกิจการมากกว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วในการพัฒนาทายาทรุ่นต่อไปให้ได้รับการศึกษา ประสบการณ์และการเปิดรับสิ่งต่างๆซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญของกระบวนการจัดการสืบทอดกิจการที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืน นอกจากนี้เนื่องจากการพัฒนายังเป็นระยะสำคัญของกระบวนการจัดการสืบทอดกิจการ จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่ในสิงคโปร์และไทยระบุว่ากรอบเวลาสำหรับระยะการพัฒนาใช้เวลา 5- 10 ปี และยังพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ววงจรของกระบวนการจัดการสืบทอดกิจการเต็มรูปแบบจะใช้เวลาอย่างน้อย 25 ปีเลยทีเดียว (ภาพที่ 2)
ที่มา : Deloitte Southeast Asia. 2013. Asian Business Families Succession Going the Distance with the Next Generation. Deloitte Southeast Asia Ltd.
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,188 วันที่ 1 - 3 กันยายน พ.ศ. 2559